#TIPH #ทันหุ้น TIPH เตรียมลงทุนเพิ่ม ในสปป.ลาวเป็นการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้น เพื่อรับโอกาสทางธุรกิจในอนาคต คาดเริ่มดีลไตรมาส3ปีนี้ ส่วนที่กัมพูชาเป็นการลงทุนครั้งใหม่ คาดภายในปีนี้หลังศึกษาโอกาสมาซักพักแล้ว พร้อมแจกปันผลระหว่างกาล ที่ 1.10 บาทต่อหุ้น

ดร.สมพร สืบถวิลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ทิพย กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TIPH กล่าวว่า บริษัทยังคงมีเป้าหมายการเติบโตต่อเนื่อง โดยในส่วนของบริษัทแกนหลักอย่าง บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ TIP ยังคงมีเป้าหมายเติบโตระดับ 2 เท่า ของภาพรวมอุตสาหกรรมประกันวินาศภัยที่คาดว่าปี2567จะโต 5%-6% เบี้ยประกันภัยรับโดยตรงรวม 301,050-303,900 ล้านบาท

*ปีนี้มีลงทุนเพิ่ม ตปท.

และภายในปีนี้คาดว่าจะมีการลงทุนเพิ่ม ในการเข้าไปถือหุ้นใน บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (สปป. ลาว) หรือ TIP Laos เพิ่มเติมจากปัจจุบันถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 10% (ข้อมูล ณ 31 มี.ค.67) รวมถึงมีแผนลงทุนธุรกิจประกันภัยในประเทศกัมพูชา ภายในปีนี้เช่นกัน

“ ในส่วนของการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นในทิพยประกันภัยลาว นั้นคาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงไตรมาส 3ปีนี้ เพราะเป็นจังหวะที่เหมาะสมทั้งในเรื่องของต้นทุน และการปรับโครงสร้างมาสู่โฮลดิ้งที่เปิดทางให้ เราสามารลงทุนต่างประเทศในสัดส่วนที่มากขึ้นกว่าเกณฑ์คปภ.กำหนดได้ และเป็นกาเตรียมความพร้อมเพื่อรับกับโอกาในอนาคต เมื่อเศรษฐกิจลาวฟื้นตัวได้ดี”

ขณะที่ปัจจุบันธุรกิจ TIP Laosมีการเติบโตต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเป็นอันดับ 4 จากบริษัทประกันวินาศภัย 18 บริษัท ซึ่งตั้งแต่ปี 2562 จนถึงไตรมาส 1/2567 เบี้ยประกันภัยเติบโตเพิ่มขึ้นทุกปี ล่าสุดผลงานไตรมาส 1/2567 เบี้ยประกันเติบโต 168.8% YoY

ดร.สมพร กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของโดยตลาดประกันภัยกัมพูชานั้นมีเพียง Forte Insurance ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 44.2 %โดยผู้เล่นรายอื่นๆ มีส่วนแบ่งการตลาดเพียง 0.3% -10.3% ทำให้ TIPH มีโอกาสในการเข้าไปชิงส่วนแบ่งการตลาด จากความเชี่ยวชาญในประกัน นอนมอเตอร์ (Non –Motor)

“ที่กัมพูชา งานกว่า 80% เป็นประกันนอนมอเตอร์ ซึ่งเป็นพอร์ตงานที่เราถนัด และเรามีขีดความสามารถ หรือ capacity เข้าไปรับงานได้”

ดร.สมพร ยังกล่าวถึงพอร์ตประกันรถอีวี ซึ่งจากการติดตามข้อมูล ถือเป็นพอร์ตงานที่มีอัตราความเสียหาย (Loss ratio) สูง ดังนั้นจึงปรับแผนงานใหม่จากที่รุกหนักในตลราดนี้ช่วงปีที่ผ่านมา ในปี 2567 ก็จะคัดเลือกงานประกันรถอีวีมากขึ้น เพื่อควบคุมอัตราความเสียหายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม

ปันผลระหว่างกาล

ทั้งนี้ TIPH รายงานตลาดหลักทรัพย์ ว่า คณะกรรมการมีมติ เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม อนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลเป็นเงินสดที่ 1.10 บาทต่อหุ้น สำหรับงวดผลการดำเนินงาน 1 มกราคม 2567- 31 มีนาคม 2567 กำหนดจ่ายปันผล วันที่ 24 มิถุนายน 2567 กำหนดวันไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD)  วันที่ 11 มิ.ย. 2567

สำหรับผลการดำเนินงานของ TIPH บริษัท มีรายได้รวม 3,991 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.7%

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยรถยนต์ที่ 3.7%และการเพิ่มขึ้นของเบี้ยประกันภัยเบ็ดเตล็ตที่1.1%

อีกทั้งบริษัท ยังสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้มีประสิทธิภาพ ทำให้บริษัท สามารถลดค่าใช้จ่ายในการรับ

ประกันภัยอื่นลงได้ 42 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน บริษัทยังมีรายได้และกำไรจากการลงทุนอีก 229 ล้านบาท ทำให้ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 มีกำไรสุทธิจำนวน 574 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.97 บาท