แนวโน้มของปริมาณการจราจรที่ดูดีขึ้น โบรกแนะนำ BEM รับปัจจัยบวก

#BEM #ทันหุ้น - บล.กสิกรไทยมองในเชิงบวกต่อหุ้น BEM โดยระบุว่าในเดือนมิ.ย.มี 1) ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร MRT สายสีน้ำเงิน 2) ศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้องกรณี รฟม.ปรับหลักเกณฑ์ประมูล MRT สายสีส้มและ3) MRT สายสีเหลืองกลับมาดำเนินงานตามปกติ

สำหรับดือนพ.ค. จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของรถไฟฟ้า MRT ทุกสายและการจราจรบนทางด่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย MoM

บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงบวกจากการฟื้นตัวของการจราจรจาก 1) นักท่องเที่ยวขาเข้า 2) ความคืบหน้าของ MRT สายสีส้ม 3) ราคาหุ้นที่ไม่แพง BEM เป็นหุ้นเด่น

Investment Topics

มีอะไรใหม่? ประการแรก เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้ปรับขึ้นอัตราค่าโดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินในวันที่ 3 ก.ค. จาก 17-43 บาท เป็น 17-45 บาท หรือเพิ่มขึ้น 3.7% ประการที่สอง เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ศาลปกครองสูงสุด (SAC) มีคำพิพากษายกฟ้องกรณี รฟม.ปรับหลักเกณฑ์ประมูล MRT สายสีส้ม ประการที่สาม เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองกลับมาเปิดให้บริการเต็มรูปแบบและเก็บค่โดยสารในอัตราปกติ หลังจากการปิดให้บริการบางส่วนเนื่องจากรางนำไฟฟ้าขัดข้องเมื่อวันที่ 30 มี.ค.

อัปเดตการจราจรจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของรถไฟฟ้า MRT ทุกสายและการจราจรบนทางด่วนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย MoM BEM รายงานปริมาณการใช้ทางด่วนเฉลี่ยต่อวันที่ 1.1 ล้านเที่ยวในเดือนพ.ค. ( +0.99% MoM, +0.44% YoY,คิดเป็น 90% ของปี 2562) และจำนวนผู้โดยสาร MRT สายสีน้ำเงินเฉลี่ยต่อวันที่ 387,400 เที่ยว (+1.83% MoM, +12.42% YoY, คิดเป็น 128% ของปี 2562) BTSGIF ายงานจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันบน BTS สายสีเขียวหลักจำนวน 519,400เที่ยวในเดือนพ.ค. ( + 1.83% MoM, +7.33% YoY, คิดเป็น 80% ของปี 2562) จากข้อมูลของกระทรวงคมนาคมจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวันของผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีเหลืองอยู่ที่ 3.1หมี่นเที่ยว (+ 13.77% MoM) และ MRT สายสีชมพูอยู่ที่ 5 หมื่นเที่ยว (+ 12.59% MoM)

แนวโน้ม บล.กสิกรไทยคาดว่าแนวโน้มการจราจรโดยรวมทั้งทางด่วนและระบบรางจะดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น 2) การเปิดภาคเรียน 3) การพัฒนาตามเส้นทาง เช่น One Bangkok และดุสิตธานี และ 4) ความคืบหน้าเชิงบวกของรถไฟฟ้า MRT สายสีส้มใหม่ นอกจากนี้ เราสังเกตุเห็นการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารของรถไฟฟ้า MRT สายสีชมพูและสีเหลืองในช่วงครึ่งแรกของเดือนมิ.ย.

ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น ในเชิง YTD ราคาหุ้นในภาคการขนส่งภาคพื้นดินทั้งหมดลดลง ยกเว้น BEM นำโดย BTS (-38%) ตามมาด้วย TFFIF (-7.6%) BTSGIF (-2.4%) และBEM (+ 0.6%) เทียบกับ SET Index ลดลง 7.9ในแง่ของมูลค่าองค์กรปัจจุบัน (EV) ของBEM/BTS/BTSGIF/TFFIF อยู่ที่ 77%/107%/31%/49% ของปี 2562 ในขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมและค่าตัดจำหน่าย ( EBITDA) ปี 2567 อยู่ที่ 109%/59%/89%/103% ของปี 2562

Valuation and Recommendation

มุมมองเชิงบวก บล.กสิกรไทยคงมุมมองเชิงบวกต่อการขนส่งภาคพื้นดินจาก 1) แนวโน้มการจราจร และ 2) ราคาหุ้นที่ฟื้นตัวช้ากว่าการฟื้นตัวของกำไรปกติ (เทียบกับระดับก่อนโควิด 19) ปัจจัยหนุนตัวคูณมูลค่าหุ้นได้แก่ 1) ความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีส้ม และ 2) การขจัดอุปสรรคทางกฎหมายสำหรับโครงการรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว

BEM ("ซื้อ", ราคาเป้าหมาย 10.33 บาท) เป็นหุ้นเด่นของเรา เนื่องจากการฟื้นตัวของราคาหุ้นฟื้นตัวไม่สอดคล้องกับคาดการณ์การฟื้นตัวของ EBITDA ที่คาดจะออกมาแข็งแกร่ง

เพิ่มคำแนะนำ BTS แต่ลดราคาป้าหมายลง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. บล.กสิกรไทยได้ปรับเพิ่มคำแนะนำสำหรับ BTS จาก "ถือ" เป็น "ซื้อ" แต่ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 5.96 บาท จาก 6.36 บาท

บล.กสิกรไทยเชื่อว่าราคาหุ้นที่อ่อนแอเมื่อเร็ว ๆ นี้ (-37.7% YTD) สะท้อนถึงการขาดทุนที่สูงกว่าคาดในช่วงปี FY2023/24 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าการดำเนินงานจะค่อย ๆ ดีขึ้นและเข้าใกล้ระดับของกำไรปกติในไตรมาส 3QFY68 เราเชื่อว่ามีโอกาสสูงที่ข้อพิพาททางกฎหมายเกี่ยวกับสัญญาปฏิบัติงานและงานบำรุงรักษา (O&M) อาจตัดสินเป็นประโยชน์ต่อ BTS

ปัจจัยเสี่ยงได้แก่ 1) ปริมาณจราจรและจำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาด 2) การแทรกแซงทางการเมืองเกี่ยวกับอัตราค่โดยสาร และ 3 ความล่าช้าในการพัฒนาโครงการขนส่งใหม่