#ทันหุ้น - บล.เอเซีย พลัส ส่องหุ้น บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO คาดกำไรสุทธิ Q4/67 (งบประกาศ 14 ม.ค. 68) ที่ 1.7 พันล้านบาท ทรงตัว QoQ (-4% YoY เพราะ ECL สูงขึ้น) โดยคาดกำไรก่อนสำรอง (PPOP) ที่ 2.5 พันล้านบาท ทรงตัว QoQ (+3% YoY) ประคองตัวได้จากรายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิ (NII) สูงขึ้นจาก NIM รับประโยชน์ดอกเบี้ยนโยบายลดรอบ ต.ค. ที่ผ่านมา ชดเชยรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non - NII) อ่อนตัว ตามภาวะตลาดทุน ขณะที่ OPEX บริหารจัดการให้สอดคล้องกับรายได้และ ECL ไม่เปลี่ยนแปลงจากงวดก่อน (+91% YoY) เป็นไปตามระดับ NPL ที่คาดใกล้เคียง Q3/67 ที่ 2.4%รายละเอียดดังนี้
NII คาดที่ 3.4 พันล้านบาท เติบโต 2% QoQ (-1.4% YoY) หนุนด้วย NIM ขยับมาที่ 5.0% เทียบกับ 4.9% งวดก่อน (Q4/66 ที่ 5.0%) หลัง Cost of fund รับประโยชน์จากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรอบที่ผ่านมา ในขณะที่ Yield on loan เพิ่มขึ้น แม้สินเชื่องวดนี้ทรงตัว QoQ (-2% YoY) แต่ไส้ในยังเห็นการขยายตัวในกลุ่ม High yield (จำนำทะเบียนรถ, รถยนต์มือสองและรถจักรยานยนต์)
Non – NII ประเมินไว้ 1.3 พันล้านบาท ลดลง 5% QoQ (+5.8% YoY) จาก FVTPL ตามภาวะตลาดทุน (SET Index QTD -1.2% จากสิ้นงวด Q3/67) ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมฯ แม้ทรงตัว QoQ, YoY ที่ 1.3 พันล้านบาท เพราะคาดหวังมี Performance fee ของ บลจ. (จากกอง PVD) เข้ามาทุก Q4 (Q4/66 ที่ 51 ล้านบาท, Q1/67 – Q3/67 เฉลี่ย 3 ล้านบาทต่อไตรมาส) แต่ค่าธรรมเนียมฝั่งธนาคารยังไม่เด่น เนื่องจากส่วนใหญ่อิงกับสินเชื่อเช่าซื้อรถ ซึ่งยังชะลอตัว
ECL ที่358 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และสูงขึ้น 91% YoY (Credit cost ที่ 0.6% VS 0.6% งวด Q3/67 และ 0.3% งวด Q4/66) เป็นไปตามการส่งสัญญาณของบริษัทฯ ว่าระดับ Credit cost จะทยอยกลับสู่ระดับปกติที่ราว 1.0% ในระยะถัดไป หลังตั้ง ECL ระดับต่ำ ผ่านการใช้สำรองส่วนเกินตลอด 2 ปีที่ผ่านมา
สำหรับระดับ NPL คาดไว้ 2.4% ใกล้เคียงสิ้นงวด Q3/67 (Q4/66 ที่ 2.2%) โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถ เริ่มมีสัญญาณดีขึ้น ตามนโยบายสินเชื่อเข้มงวดกลุ่มนี้ในช่วงที่ผ่านมา (กลุ่มจำนำทะเบียนยังปรับขึ้น ตามการขยายตัวสินเชื่อในกลุ่มนี้) ประกอบกับการบริหารผ่านการ Write-off ช่วงท้ายปี เพื่อลดแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ในปีถัดไป ซึ่งผลจากการ Write-off ทำให้แนวโน้ม Coverage ratio ลงมาที่ 155.5% เทียบกับ 159.1% งวด Q3/67 (สิ้นปี 2566 ที่ 189.9%) โดยรวมกำไร 2567F อยู่ที่ 6.90 พันล้านบาท (-5.5% YoY) ถือว่าใกล้เคียงกับประมาณการกำไรปัจจุบันที่ 6.98 พันล้านบาท
แนวโน้มกำไรปี 2568 ประคองตัวได้จาก NIM
สำหรับแนวโน้มปี 2568 แม้ฝั่งรายได้ดูมีแรงหนุนจาก NII เพราะการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายรอบ ต.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ทิศทาง Cost of fund ทยอยลดลง ตามการ Repricing เงินฝากประจำ สวนทางพอร์ตสินเชื่อสัดส่วนราว 63% (เช่าซื้อรถราว 44% + จำนำทะเบียนประมาณ 19%) รับรู้อัตราดอกเบี้ยคงที่ แต่ปัจจัยบวกข้างต้น ถูกหักล้างด้วยระดับ Credit cost มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นกลับสู่ระดับปกติ ดังที่ได้กล่าวในช่วงต้น เพียงแต่อาจยังไม่ถึง 1% จากมาตรการแก้หนี้ครัวเรือนของภาครัฐ ประเมินช่วยให้คุณภาพสินทรัพย์มีพัฒนาการในช่วง 2H68 องค์ประกอบรวมคงคาดกำไรสุทธิปี 2568 ที่ 7 พันล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน (รวมผลจากการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1 ครั้ง ช่วง ต.ค. 67 แล้ว)
ทั้งนี้ กรณีที่มีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่ม หรือคุณภาพสินทรัพย์ดีขึ้น เพราะมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน สะท้อนผ่าน Sensitivity analysis พบว่าทุก 0.1% ของ NIM และ Credit cost ซึ่งเปลี่ยนแปลงจากสมมติฐาน จะทำให้กำไรสุทธิปี 2568 เปลี่ยนแปลงในอัตราใกล้เคียงกันราว 3%
Neutral … Div yield 8% จำกัด Downside ต่อราคาหุ้น
อิง GGM (ROE ระยะยาว16.1%, COE ที่ 9%) ให้ PBV เท่ากับ 1.8 เท่า ได้ FV ปี 2568 ที่ 102 บาท เทียบเท่า PER ราว 12 เท่า (ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยปี 2560 ถึงปัจจุบัน) แม้การเติบโตของกำไรไม่เด่นและ Upside อยู่ที่ 4.6% แต่ Div yield สูงเกือบ 8% ต่อปี (2H67F ที่ 5.75 บาทต่อหุ้น เทียบเท่า Div Yield ราว 6%) ประกอบกับแนวโน้ม ROE สูงสุดในกลุ่มฯ ที่ 16% คาดจำกัด Downside ต่อราคาหุ้น จึงคงแนะนำ NEUTRAL
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_/
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
X คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?/
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม