> รู้ทันการลงทุน >

09 มกราคม 2025 เวลา 06:20 น.

Wait & See รอปัจจัยบวกใหม่ ค่อยลุยต่อ

#ทันหุ้น-รายงาน BLS Top Funds ระบุภาพรวมตลาดการลงทุนในสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงเป็นส่วนใหญ่ส่งท้ายปี 2567 โดยในปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อย่างโดดเด่น จากแรงหนุนหุ้นกลุ่มเทค ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีหลังที่ได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากภูมิภาค ทั้งนี้สินทรัพย์ทางเลือกอย่างทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น เดินหน้าทำ All Time High


โดยเราคาดว่าระยะสั้น ตลาดหุ้นอาจเผชิญการพักฐาน เนื่องจาก Valuation ที่อยู่ในระดับสูง และขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน นอกจากนี้ตลาดยังจับตาท่าทีของปธน.ทรัมป์ ในวันเข้ารับตำแหน่ง 20 ม.ค. นี้ เพื่อรอดูทิศทางนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต เรายังคงแนะนำ Wait & See รอจังหวะ และหลีกเลี่ยงการไล่ราคา โดยสามารถเน้นทยอยซื้อสะสมในตลาดหุ้นที่มี Valuation ที่น่าสนใจ และมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อย่างตลาดหุ้นเวียดนาม อินเดีย และหุ้นกลุ่มเทค โดยในสัปดาห์นี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เช่น ดัชนี PMI ตลาดแรงงาน และรายงานการประชุมเฟด

ตลาดหุ้นไทย (Slightly Overweight) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยดัชนี SET เคลื่อนไหวค่อนข้างเปราะบางหลุด 1,400 จุด ขณะที่แนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และการถูกปรับลดคาดการณ์กำไรของบริษัทจดทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นยังคงเผชิญแรงกดดันประกอบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ยังคงอ่อนแอ ทำให้ตลาดมีแนวโน้มผันผวนในระยะข้างหน้าสูงขึ้น เราจึงมีมุมมองการลงทุนเป็นกลาง จากปัจจัยกดดันดังกล่าว และความเสี่ยงตลาดที่เพิ่มสูงขึ้นในภาพรวม


ตลาดตราสารหนี้ (Slightly Overweight) อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ปรับตัวเพิ่มขึ้นทั้งในอายุ 2 ปี และอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 4.28% และ 4.60% ตามลำดับ คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับที่เป็นกลาง (Neutral Rate) อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงจากเงินเฟ้อที่อาจเพิ่มขึ้นจากนโยบายของทรัมป์ 2.0อาจจำกัดขอบเขตการดำเนินนโยบายของเฟด ทำให้เรามีมุมมองเป็นบวกต่อตราสารหนี้ระยะสั้นถึงกลาง ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงด้านขาลงได้ดีกว่าหุ้นและตราสารหนี้ระยะยาว


ตลาดหุ้นเวียดนาม (Slightly Overweight) ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง ดัชนี VNI หลุด 1,250 จุด ทดสอบแนวรับเส้น EMA 200 วันอีกครั้ง เราคาดว่าระยะสั้นดัชนี VNI เคลื่อนไหว Sideway ออกด้านข้าง หลังขาดปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจน 


เรายังคงมองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจ และกำไรบริษัทฯ จะยังคงอยู่ในเส้นทางการฟื้นตัวต่อเนื่อง รวมถึง Valuation ที่ไม่แพง และดัชนีที่ยัง Laggard เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นอื่น เรายังคงแนะนำถือลงทุนต่อ และทยอยซื้อสะสมเพิ่มเติม


ตลาดหุ้นสหรัฐฯ (Neutral ปรับตัวลดลงทั้งสามดัชนีหลัก หลังขาดปัจจัยบวกใหม่ และเผชิญกับแรงขายทำกำไรในช่วงท้ายปี อย่างไรก็ตามเราคาดว่าหุ้นเทคฯ ยังคงมีแนวโน้มกำไรที่แข็งแกร่ง และการปรับตัวของหุ้นกลุ่มเทคฯ 


ในอนาคตมีแนวโน้มกระจายตัวเป็นวงกว้างมากขึ้น ทำให้การลงทุนผ่านกองทุนดัชนี (Index Funds) จึงเป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสม แนะนำทยอยซื้อสะสม แต่ควรหลีกเลี่ยงการไล่ราคา เนื่องจาก Upside ของตลาดเริ่มมีทิศทางจำกัดมากขึ้น


ตลาดหุ้นอินเดีย (Neutral) ฟื้นตัว หลังปรับตัวลดลง ส่งผลให้ดัชนี SENSEX ปรับตัวลดลงทดสอบแนวรับ EMA 200 วันอีกครั้ง หลังขาดปัจจัยบวกใหม่ เรามองว่าตลาดหุ้นอินเดียยังคงมีแนวโน้มเติบโตในระยะกลางถึงระยะยาวอย่างแข็งแกร่ง และคาดว่ากำไรของบริษัทฯ จะยังคงเติบโตอย่างมีคุณภาพ อีกทั้ง Valuation ที่ลดความตึงตัวลง หลังจากตลาดยังคงอยู่ในโหมดของการปรับฐานในช่วงที่ผ่านมา จึงมองเป็นจังหวะทยอยซื้อสะสมเพิ่มเติมได้


จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X