31 มกราคม 2025 เวลา 11:44 น.
บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เปิดเสนอขายกองทุนเปิดอีสท์สปริง พันธบัตรรัฐมุ่งรักษาเงินต้น 6M34 (ES-GOVCP6M34) อายุประมาณ 6 เดือน เงินทุนโครงการ 7,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นกองทุนรวมตราสารหนี้ที่มุ่งรักษาเงินต้นที่ผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนเพิ่มจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าหน่วยลงทุน ณ วันครบอายุโครงการ โดยเสนอขายครั้งแรกครั้งเดียวระหว่างวันนี้-6 กุมภาพันธ์ 2568 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท
โดยกองทุน ES-GOVCP6M34 มีนโยบายที่จะนำเงินลงทุนไปลงทุนในตั๋วเงินคลัง และ/หรือพันธบัตรรัฐบาล และ/หรือพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย ในอัตราส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน สำหรับเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากธนาคาร และ/หรือหลักทรัพย์หรือทรัพย์สินอื่น หรือการหาดอกผลโดยวิธีอื่นตามที่สำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. กำหนดหรือเห็นชอบให้กองทุนลงทุนได้ และกองทุนจะไม่ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives)
*ชูยิลด์1.75%
ทั้งนี้ กองทุนจะลงทุนเพียงครั้งเดียวและถือครองทรัพย์สินที่ลงทุนจนครบอายุโครงการ (Buy and Hold) โดยคาดหวังจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.96% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ ซึ่งเมื่อหักค่าใช้จ่ายประมาณ 0.21% ต่อปี ณ วันครบอายุโครงการ แล้ว ผู้ลงทุนจะได้รับประมาณการผลตอบแทนอยู่ที่ 1.75% ต่อปีของเงินลงทุนเริ่มแรก (แหล่งที่มาของข้อมูล อัตราผลตอบแทนที่เสนอขายโดยผู้ออกตราสาร ณ วันที่ 27 มกราคม 2568)
เมื่อครบกำหนดอายุกองทุน บลจ.อีสท์สปริง จะดำเนินการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และทำการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนของกองทุนทั้งจำนวนของผู้ถือหน่วยทุกราย ไปยังกองทุนเปิดอีสท์สปริง ธนรัฐ (ES-TM) หรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่บลจ.อีสท์สปริง เปิดให้บริการสับเปลี่ยนหน่วยลงทุน ในวันทำการก่อนวันสิ้นสุดอายุโครงการ
บลจ.อีสท์สปริง ยังให้มุมมองการลงทุนปี 2568 เพิ่มเติมว่า บลจ.อีสท์สปริง ยังให้มุมมองการลงทุนปี 2568 เพิ่มเติมว่า พอร์ตลงทุนที่มีการกระจายความเสี่ยงลงทุนในหลายสินทรัพย์จะช่วยลดความผันผวนได้ก็ตาม แต่ก็ต้องจับตาดูปัจจัยต่างๆที่จะเข้ามากระทบต่อภาพการลงทุนเช่นกันเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนแผน และกลยุทธ์การลงทุน พร้อมปรับเพิ่ม-ลดสัดสินทรัพย์ในพอร์ตลงทุนได้อย่างเหมาะสมและทันต่อสถานการณ์
*สินทรัพย์เสี่ยงต่ำพยุงพอร์ต
ในปี 2568 บลจ.อีสท์สปริง คาดว่าจะเกิดช่วงเวลาที่มีความผันผวนสูงอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของนโยบายจากสหรัฐ และจีน ซึ่งจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ต และสร้างโอกาสของผลตอบแทนกับสินทรัพย์ที่ได้ประโยชน์จากสถานการณ์ดังกล่าว อย่างไรก็ตามยังต้องเน้นที่ปัจจัยพื้นฐานระยะยาวเป็นสำคัญ โดยตระหนักว่าความไม่แน่นอนอาจเกิดขึ้นได้จากหลายแหล่ง สำหรับกลยุทธ์เชิงรับ เช่น การลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำ จะช่วยรองรับความเสี่ยงขาลง และมีส่วนช่วยให้เกิดผลตอบแทนที่มีเสถีรภาพมากขึ้น
สำหรับมุมมองต่อประเทศไทย ในปี 2568 บลจ.อีสท์สปริง เผยว่าตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มจะฟื้นตัวต่อในปี 2568 จากนโยบายกระตุ้นนเศรษฐกิจจากรัฐบาล ด้วยนโยบายการคลังแบบขยายตัว การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ คาดกว่าจะช่วยกระตุ้นให้ภาคเอกชน สร้างงาน และเพิ่มรายได้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยปลดล็อกรายได้ที่สามารถนำไปจับจ่าสยได้ รวมทั้งการลงทุน
นอกจากนี้ การนำกองทุนวายุภักษ์ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนที่สนับสนุนโดยรัฐบาล กลัยมาใช้อีกครั้งมีศักยภาพที่จะช่วยกระตุ้นความเชื่อมั่นน และสภาพคล่องในตลาดอย่างมีนัยสำคัญ หลายธุรกิจคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัญ การฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวจะเป้นผลดีต่อธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และสายการบิน มตราการแจกเงินและบรรเทาภาระหนี้จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของผู้บริโภค ส่งผลดีต่อยอดค้าปลีก มาตรการกระตุ้น และการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลจะสร้างโอกาสการเติบโตในธุรกิจคลาวด์คอมพิวตั้ง ศูนย์ข้อมูล และฟินเทค
ในส่วนของภาคพลังงานหมุนเวียนจะได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกระแสการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ความต้องการที่เพิ่มขึ้นทางด้านศูนย์ข้อมูล คลาวด์คอมพิวติ้ง และระบบเครือข่ายประสิทธิภาพสูง
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม