> mai > NETBAY

09 มีนาคม 2020 เวลา 13:29 น.

NETBAYบริการบล็อกเชน กูรูชี้แพลตฟอร์มธุรกิจใหม่หนุน

ทันหุ้น - NETBAY กดปุ่มให้บริการธุรกิจนวัตกรรมบล็อกเชนสำหรับการค้าระหว่างประเทศภายในปีนี้ พร้อม ทำสมาร์ทฟาร์ม และศึกษาวิจัยการพัฒนาโรบอทเข้ามาช่วยในอุตสาหกรรมไทย ปักเป้ารายได้ปีนี้โต 15% จากปีก่อน ฟากโบรกชี้ยังมีอัพไซด์อีกมากจากแพลทฟอร์มธุรกิจใหม่ แนะ “ซื้อ” เคาะเป้า 47 บาท


นายพิชิต วิวัตน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินการในปี 2563 คาดรายได้เติบโต 15% จากปีก่อน ที่มีรายได้รวม 422.22 ล้านบาท ซึ่งเป็นการบริการลูกค้าจากภาคเอกชนเกือบ 100% ที่เป็นรายได้ประจำ(Recurring) รับรู้สม่ำเสมอ ด้วยบริการ 24 ชั่วโมง และจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของรายได้ Digital Service ซึ่งบริษัทสามารถรักษาฐานลูกค้า เดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงการเพิ่มความหลากหลายในประเภทของการให้บริการ และการเติบโตของธุรกิจ e-commerce ในประเทศไทย


D/E ต่ำ 0.30 เท่า

ปัจจุบันบริษัทมีอัตราหนี้สินต่อทุน(D/E)ต่ำเพียง 0.30 เท่า และไม่มีภาระหนี้สินที่เป็นดอกเบี้ย ส่วนต้นทุนทางด้านบุคลากรที่เป็นต้นทุนหลัก เทียบกับรายได้ถือว่าไม่มากนัก ดังนั้นเมื่อมีงานใหม่เข้ามาหนุนรายได้ให้เติบโต คาดว่าต้นทุนก็จะไม่เพิ่มสูงมากจนเกินไป


สำหรับในปีที่ผ่านมา บริษัทได้มีการจัดตั้งบริษัทร่วมทุน กับ บริษัท ฟินโนเวท จำกัด ถือหุ้นในสัดส่วน 60:40 ชื่อบริษัท ฟินเน็ต เวนเจอร์ส จำกัด ซึ่งบริษัทร่วมทุนดังกล่าว จะดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับนวัตกรรมเทคโนโลยีบล็อกเชนสำหรับการค้าระหว่างประเทศ (Blockchain Facilitating Global Trade Value Chain) เพื่อขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ


โดยการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนของสองฝ่ายนั้น จะช่วยให้เกิดประโยชน์ต่อลูกค้าทุกภาคส่วนที่อยู่ในระบบ ecosystem ของ Global Trade Value Chain การค้าขายระหว่างประเทศจะได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดต้นทุน คล่องตัวและปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี “บล็อกเชน” ที่นับวันบล็อกเชนจะมีบทบาทสำคัญ และได้รับการยอมรับในเทคโนโลยีเพิ่มมากขึ้นในเวทีการค้าระหว่างประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มให้บริการบลอคเชนภายในปีนี้ รวมถึงการทำสมาร์ทฟาร์ม Internet of Things (IoT)  และศึกษาวิจัย(R&D)การพัฒนาโรบอท เพื่อเข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมในไทยต่อไ


มีโอกาสโตอีกมาก

สำหรับตลาดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทในประเทศไทยที่ ยังคงดำเนินงานด้วยระบบ Analog  ภาคการส่งออก-นำเข้าของไทย ที่มีมูลค่ากว่า 16 ล้านล้านบาท ผู้ประกอบการกว่า 95% ดำเนินงานด้วยระบบ Analog เช่นกัน ซึ่งยังเป็นช่องว่างในการเติบโตได้อีกมาก ดังนั้นเมื่อผู้ประกอบการทั้ง นำเข้า-ส่งออก เริ่มดำเนินงานด้วย e-logistics มองว่ามีมูลค่าที่สูงมาก เมื่อเทียบกับยอดขายบริษัทในปัจจุบันที่มียอดขายปัจุบัน และด้วยมูลค่างานที่สูงจะไม่มีปัญหาเรื่องคู่แข่งอย่างแน่นอน หากมีผู้เล่นใหม่ๆเพิ่มเข้ามาในตลาดนี้ 


ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ระบุว่า บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAY  รายได้จะเติบโตเฉลี่ย 15% ต่อปี ระหว่างปี 2561-2563 ทั้งนี้ยังมีอัพไซด์อีกมากจากแพลตฟอร์มธุรกิจใหม่ๆ เช่น e-DLT ซึ่งเรายังไม่ได้นำมาคิดในประมาณการของเรา การที่ NETBAY สามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ของตนเองได้ทำให้บริษัทสามารถ 1) เพิ่มยอดขายจากลูกค้ากลุ่มใหม่ และ 2) สร้างความได้เปรียบด้านการแข่งขัน เนื่องจากซอฟต์แวร์ของบริษัทตอบสนองความต้องการเฉพาะของบริษัทนั้นๆ และมีราคาที่สมเหตุสมผล หนุนให้ NETBAY มีรายได้หมุนเวียน (recurring income) ที่ค่อนข้างมั่นคง และมีสถิติที่ชี้ว่าบริษัทสามารถเจาะตลาด SaaS ได้อย่างประสบความสำเร็จ และยังขยายแพลตฟอร์มต่อเนื่อง


ทั้งนี้คาดอัตรากำไรสุทธิจะเติบโตจาก 36.8% ในปี 2560 มาเป็น 41% ในปี 2561 หนุนให้กำไรเติบโตเฉลี่ย 24%/ปี ระหว่างปี 2561-2563 และยิ่งหากกระบวนการ เปลี่ยนผ่านของ G2B จากการใช้กระดาษมาเป็นดิจิทัล เชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อ NETBAY ซึ่งมีพื้นฐานที่ดีรวมถึงมีความพร้อมอยู่ในอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ให้คำแนะนำ ซื้อ NETBAY ด้วยราคาเป้าหมาย ที่ 47 บาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X