ทันหุ้น – ฟากแม่ทัพหญิง HPT ”นิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ” ปลื้มมีออร์เดอร์ส่งออกยาวไปถึงกลางปีเพิ่มขึ้นถึง 10% รับอานิสงส์จีนปิดประเทศ แถมค่าเงินบาทอ่อนค่า คาดยอดขายต่างประเทศพุ่งขึ้น อวดแบ็กล็อกเต็มมือ 40-45 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวมปี 63 โต 10-15% ต่อจากปีก่อน เน้นเจาะฐานลูกค้าต่างแดน ลุยปั๊มอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 8-10%
นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT เปิดเผยว่า บริษัทคาดแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2563 จะดีกว่าช่วงเดียวกัน เพราะบริษัทมีคำสั่งซื้อ(ออเดอร์) จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น หลังจากจีนปิดประเทศ ส่งผลให้การผลิตชะลอตัว ทำให้ลูกค้าต่างประเทศเริ่มมองหาผู้ผลิตรายอื่น เพื่อผลิตและจำหน่ายสินค้าส่งออก ซึ่งบริษัท โฮทพอตเทอรี่ ได้เป็น 1 ในตัวเลือกในการผลิตสินค้าให้กับลูกค้า
รับอานิสงส์บาทอ่อน
นอกจากนี้บริษัทยังได้รับผลดีจากค่าเงินบาทที่มีทิศทางอ่อนค่า ทำให้บริษัทคาดยอดขายจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น ทั้งนี้บริษัทมีออเดอร์เพิ่มขึ้นราว 10% ซึ่งสอดคล้องกับกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นตั้งแต่ปีก่อน และออเดอร์ถูกสั่งซื้อตั้งแต่ต้นปีไปจนถึงกลางปีนี้แล้ว
แต่อย่างไรก็ตามบริษัทคาดยอดขายบริษัทย่อย หรือ บริษัท เซ็นทรัลฮอสพิแทลลิที จำกัด หรือ CHL ผู้จำหน่ายสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้และอุปกรณ์สำหรับโรงแรมและร้านอาหารในประเทศมีโอกาสปรับตัวลดลง เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าประเทศลดลง ทำให้ผู้ประกอบการไม่ลงทุนซื้ออุปกรณ์และเครื่องใช้ในโรงแรมน้อยลง
โดยในปี 2563 บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมเติบโตราว 10-15% ต่อจากปีก่อนที่ 198.09 ล้านบาท สำหรับการเติบโตที่เพิ่มขึ้นจะมาจากการขายสินค้าให้กับลูกค้าต่างประเทศเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากทวีปอเมริกาที่ 45.06% ทวีปยุโรปที่ 36.54% ทวีปออสเตรเลีย 13.71% และทวีปเอเชียที่ 4.70%
แบ็กล็อก 45 ล้าน
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีออเดอร์รอส่งมอบหรือ Backlog อยู่ราว 40-45 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยส่งมอบและรับรู้เป็นยอดขายใน 3-4 เดือนข้างหน้า อีกทั้งบริษัทจะพยายามผลักดันอัตรากำไรสุทธิ (Net Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 8-10% โดยการเพิ่มปริมาณการขาย และควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตให้ลดลง
บริษัทมีแผนจะขยายไลน์การผลิตสินค้า และเพิ่มแม่พิมพ์ใหม่ เพิ่มวอลุ่มในการขายสินค้า ซึ่งสินค้าใหม่จะช่วยสร้างยอดการขายให้เพิ่มขึ้นเพราะเป็นสินค้าประเภทสีสัน ซึ่งบริษัทประเมินความต้องการใช้สินค้า ประเภทนี้มีการเติบโตค่อนข้างสูง โดยจะเริ่มรับรู้ยอดขายสินค้าใหม่เข้ามาภายในครึ่งปีแรกของปี 2563
สำหรับงบลงทุนในการเพิ่มไลน์ผลิตสินค้า คาดะไม่เกิน 10 ล้านบาท เพราะส่วนหนึ่งบริษัทจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อร่วมกันผลิตสินค้า ทั้งนี้ในปี 2563 บริษัทคาดสัดส่วนยอดขายสินค้าที่เป็นสีสันเพิ่มขึ้นมากกว่า 50% จากปีนี้ระดับใกล้เคียง 50% ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 30%
นางสาวนิจวรรณ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทมีแผนจะขยายธุรกิจและการขายสินค้าไปในประเทศแอฟริกา ซึ่งบริษัทเคยศึกษาตลาดในประเทศดังกล่าวแล้ว แต่อาจะไม่ใช่เรื่องง่ายหากบริษัทจะนำสินค้าเข้าไปขาย แต่อย่างไรก็ตามบริษัทจะพยายามหาตัวแทนขายสินค้าในแอฟริกาให้ได้
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม