> SET > TNR

01 เมษายน 2020 เวลา 10:22 น.

TNR ยิ้มรับดีมานด์ถุงยางพุ่ง รุกตลาดสหรัฐ-จีนดันยอด

ทันหุ้น –สู้โควิด –TNR รับอานิสงส์หลังบริษัทคาเร็กซ์ ผู้ผลิตถุงยางอนามัยรายใหญ่ที่สุดของโลกในมาเลเซีย ปิดโรงงาน กระทบซัพพลายโลกลดลง แย้มมีออเดอร์ล่วงหน้าแล้ว 3 เดือน รุกขยายตลาดอเมริกา จีน อินเดีย ผลักดันสินค้ากลุ่ม OBM อย่างแบรนด์ PLAYBOY หนุนมาร์จิ้นพุ่ง เผยปัจจุบันยังไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มั่นใจมาตรการรองรับพร้อม แย้มเดินหน้าจะออกสินค้าใหม่ คาดรายได้ปีนี้แตะ 2 พันล้านบาท


นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR เปิดเผยว่า สำหรับประเด็นเรื่องบริษัทคาเร็กซ์ ผู้ผลิตถุงยางอนามัยรายใหญ่ที่สุดของโลกในมาเลเซีย ต้องปิดโรงงานผลิตถุงยางอนามัย 3 แห่งในมาเลเซียมาป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้วจากมาตรการล็อกดาวน์ของรัฐบาลมาเลเซีย เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ผลกระทบดังกล่าวทำให้ซัพพลายถุงยางอนามัยในตลาดโลกหายไป


ซึ่งคาเร็กซ์ มีกำลังการผลิตถึง 4-5 พันล้านชิ้นต่อปี มีสัดส่วนการผลิตราว 25% ของทั่วโลก ซึ่งหากมีการปิดโรงงานราว 1 เดือนจะทำให้กำลังการผลิตหายไป 25% ในช่วงที่ปิดโรงงาน ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวทำให้ผู้ผลิตรายอื่นได้รับอานิสงค์มีออเดอร์เข้ามาเพิ่มขึ้น ขณะที่บริษัทก็มีออเดอร์กำลังการผลิตล่วงหน้าแล้ว 3 เดือน หรือเดือนละ 120 ล้านชิ้น


*ดีมานด์ถุงยางเติบโตดี

ขณะที่บริษัทมีกำลังการผลิตรวมที่ 2 พันล้านชิ้นต่อปี แต่ปัจจุบันมีการผลิตอยู่ที่ราว 1.5 พันล้านชิ้นต่อปี โดยในระยะ 2-3 ปีบริษัทยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิต แต่หากหลังจาก3 ปี การเติบโตในตลาดต่างประเทศสูงมาก ก็มีโอกาสที่จะพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิต ส่วนวัตถุดิบของบริษัทมีเพียงพอมีการสั่งสินค้ารองรับไว้ 3เดือนล่วงหน้า นอกจากนี้จะมีการออกสินค้าใหม่คือแอลกอฮอลน้ำและเจล คาดว่าจะวางจำหน่ายได้ในเดือนเมษายนนี้


ส่วนรายได้ปีนี้บริษัทตั้งเป้าไว้ที่ 2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่รายได้ 1.76 พันล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้หลักมาจากต่างประเทศ 80% และอีก 20% เป็นรายได้ในประเทศ บริษัทเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะมีความต้องการต่อเนื่อง และปีนี้จะเน้นการผลิตดันการจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทหรือ(Origianl Equipment Manufacturer:OBM) คือแบรด์PLAYBOY เป็นสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยตลาดที่บริษัทจะเร่งผลักดันยอดขายจะเน้นตลาดในต่างประเทศเช่น สหรัฐอเมริกาปีที่ผ่านมาได้มีการไปตั้งสำนักงานขายเรียบร้อยแล้ว และมีการขายสินค้าไปยังห้างวอลมาร์ท (Walmart) ซึ่งเป็นห้างสำคัญของสหรัฐฯ ทำให้คาดว่าสัดส่วนยอดขายจากสหรัฐฯจะเพิ่มสูงขึ้นเป็น 30% จากปัจจุบันที่ 20%


*ลุยตลาดสหรัฐ-จีน-อินเดีย

นอกจากนี้ยังเตรียมขอใบอนุญาติจำหน่ายสินค้าที่ประเทศจีนคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยตลาดจีนก่อนหน้านี้บริษัทมีพันธมิตรในการจัดจำหน่าย แต่ขณะนี้บริษัทมีความต้องการที่จะหน่ายสินค้าด้วยตนเองจึงต้องมีการดำเนินการของใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ซึ่งบริษัทเชื่อว่ายอดขายในจีนจะเติบโตได้ดี ขณะเดียวกันยังเดินหน้าขยายตลาดอินเดียด้วย อย่างไรก็ดี นอกเหนือจากการขยายตลาดประเทศขนาดใหญ่ ตลาดประเทศขนาดเล็กบริษัทก็ให้ความสำคัญอย่างมาก แต่รูปแบบการขายสินค้าจะเป็นการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายแทน


ทั้งนี้บริษัทขอให้มั่นใจในการเติบโต ธุรกิจถุงยางอนามัย ยังมีแนวโน้มการขยายตัวจากการใช้งาน และในประเทศไทยก็มีวัตถุดิบรองรับอย่างน้ำยาง ซึ่งถือว่าเป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของไทยด้วย ทำให้เป็นข้อได้เปรียบของบริษัท ส่วนผลกระทบโควิด-19ที่เกิดขึ้นขณะนี้บริษัทยังไม่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ แต่บริษัทก็มีมาตราการรองรับอย่างเข้มงวดมีการคัดกรองพนักงานอย่างละเอียด และมีการให้พนักงานบางส่วนสามารถwork from home ได้ จึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องการดำเนินธุริจยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้



อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X