ทันหุ้น –สู้โควิด-  TK  ประเมินโควิด-19 กระทบกำลังซื้อและเศรษฐกิจ ส่งผลคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 2563 ด้าน NPL  เล็งช่วง 6 เดือนแรกปีนี้อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเกณฑ์เดิมที่วางไว้ 4.5% จ่อปรับแผนกระชับมาตรการช่วยเหลือลูกค้าชั้นดี คาดช่วงครึ่งหลังปีวิกฤตเบาบางเดินหน้าขยายสาขาต่างแดน

นายประพล พรประภา กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า จากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังขยายเป็นวงกว้างและเป็นปัจจัยภายนอกที่ไม่อาจควบคุมได้ และไม่สามารถประเมินได้เลยว่าวิกฤตครั้งนี้จะเริ่มเบาบางลงได้เมื่อไหร่ เป็นผลกระทบอย่างมากต่อกำลังซื้อและเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ

ทำให้มองว่าจะมีผลกดดันต่อผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 1/2563 และอาจต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 2/2563 ได้ เนื่องจากลูกหนี้มีความสามารถในการชำระหนี้ได้น้อยลง การเรียกชำระหนี้เป็นไปได้ยากขึ้น ทำให้ประเมินว่าในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 ระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อาจปรับตัวเพิ่มเล็กน้อยจากเกณฑ์เดิมที่วางไว้ประมาณ 4.5%

คุมเข้มปล่อยสินเชื่อ

ทั้งนี้จากปัจจัยกำลังซื้อในประเทศที่หดตัวลงสะท้อนต่อการปล่อยสินเชื่อใหม่ (New Loan) ในปี 2563 หดตัวลงเมื่อเทียบช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อน เพราะเชื่อว่าการเกิดวิกฤตเช่นนี้จะส่งผลให้คนไทยหันมาเก็บเงินและใช้จ่ายเฉพาะสินค้าที่จำเป็นมากขึ้น อีกทั้งบริษัทอาจมีการคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อใหม่มากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิด NPL ในอนาคต ซึ่งจุดนี้บริษัทเห็นใจลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เป็นอย่างมาก โดยในขณะนี้จึงอยู่ระหว่างเร่งหามาตรการเข้ามาช่วยเหลือลูกค้า เบื้องต้นคาดว่าภายในช่วงเดือนเมษายน 2563 จะได้ข้อสรุป

ขณะเดียวกันภาครัฐมีมติอนุมัติมาตรการดูแลและเยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระยะที่ 3 วงเงินรวม 1.9 ล้านล้านบาท ซึ่งการช่วยเหลือกระจายออกไปตั้งแต่ผู้ใช้แรงงาน เกษตรกร ลูกจ้าง ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ตลอดจนการดูแลด้านสินเชื่อเพื่อช่วยพยุงธุรกิจขนาดย่อย (SMEs) ไปจนถึงขนาดกลาง มองว่าจะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจในประเทศและเป็นการลดความรุนแรงของผลกระทบที่เกิดขึ้นในวิกฤตครั้งนี้มากกว่า

ติดเครื่องครึ่งปีหลัง

สำหรับแผนการดำเนินงานและการลงทุนในปี 2563 บริษัทคาดว่าจะมีการทบทวนแผนอีกครั้งในช่วงครึ่งหลังปีนี้ หรือรอให้สถานการณ์แร่ระบากของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลงก่อน ส่วนในตอนนี้ทำได้เพียงการปรับกลยุทธ์ภายในองค์กรแบบรายวันเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ได้มากที่สุด เพราะขณะนี้ไม่อาจประเมินหรือคาดการณ์ใดใดได้

ส่วนแผนการขยายสาขาในต่างประเทศ ภายาใต้การบริหารของบริษัทลูก 3 บริษัทใน 3 ประเทศ คือ บริษัท ซัวสะไดไฟแนนซ์ จำกัด ในกัมพูชา, บริษัทสบายดี ลีสซิ่ง จำกัด ใน สปป.ลาว และ บริษัท มิงกะละบาฐิติกรไมโครไฟแนนซ์จำกัด ในเมียนมานั้น ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้อาจชะลอไปก่อน เนื่องจากการเดินทางที่ไม่สะดวก แต่คาดว่าในช่วง 6 เดือนหลังของปีนี้จะกลับมาลงทุนได้ตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้สิ้นปีนี้บริษัทจะมีสาขาในต่างประเทศรวม 21 สาขา

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1