> mai > TIGER

24 มิถุนายน 2020 เวลา 09:00 น.

ปีทองTIGERเบนเข็มรุกงานรัฐ แจกข่าวดีจ่อฮุบโปรเจ็กต์1.5พันล.

ทันหุ้น - สู้โควิด – TIGER งานไหลเข้าไม่หยุด หลังเบนเข็มรับงานราชการมากขึ้น ล่าสุดคว้างานมูลค่า 680 ล้านบาท แย้มอีก 2-3 เดือนเตรียมรับข่าวดีอีกรอบ มั่นใจฮุบโปรเจ็คใหญ่เติมพอร์ตเพิ่มกว่า 1.5 พันล้านบาท หลังยื่นประมูลงานแล้ว 2.5 ล้านบาท เชื่อแบ็กล็อกปีนี้ทะลุ 2.5 พันล้านบาท จากปีก่อน 900 ล้านบาท


นายจตุรงค์ ศรีกุลเรืองโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย อิงเกอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TIGERเปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทประมูลงานเพิ่มอีก 6 โครงการ มูลค่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งมีความมั่นใจว่าจะได้รับงานมูลค่า 1,500 ล้านบาท โดยคาดว่าจะรู้ผลในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ยังได้เตรียมประมูลงานใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังมูลค่า 1,200-1,300 ล้านบาท


คว้างาน 680 ล้าน


ล่าสุด บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด (TEC) ซึ่งเป็นบริษัทแกนของบริษัท ได้รับงานก่อสร้างใหม่จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก มูลนิธิการแพทย์สยามบรมราชกุมารี ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ถนนรังสิต-นครนายก คลอง 16 ตำบลองครักษ์ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก มูลค่าการก่อสร้าง 500 ล้านบาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ระยะเวลาดำเนินการ 600 วัน (เริ่มงานวันที่ 1 กรกฎาคม 2563)


ส่วนโครงการที่ 2 เป็นโครงการ คอมมิวนิตี้ มอลล์ และปั๊มน้ำมัน ปตท. แพลทตินั่ม สะเดา (Community Mall & PTT Platinum Sadao) อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่ง บริษัท ไทย อิงเกอร์ จำกัด ได้รับงานรับเหมาออกแบบงานวิศวกรรมและงานรับเหมาก่อสร้างโครงการจากบริษัท ลีออน เอนเนอร์จี จำกัด มูลค่าโครงการ 180 ล้านบาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ระยะเวลาดำเนินการ 140 วัน (ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม – 1 ธันวาคม2563)


ทั้งนี้จากการเข้ารับงาน 2 โครงการดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทฯ มีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพิ่มเป็น 1200 ล้านบาท ขณะที่คาดว่าแบ็กล็อกในปีนี้จะมากกว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ปีนี้ 20% และอีก 70% จะรับรู้ในปี 64 ที่เหลือจะรับรู้ในปี 65


รุกรับงานภาครัฐ


อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทมุ่งเน้นรับงานภาครัฐเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็น และได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากภาครัฐ  ส่วนงานภาคเอกชน บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ หันมารับงานที่มีขนาดเล็กลง มีระยะเวลาดำเนินการก่อสร้างระยะสั้น ทำให้สามารถรับรู้รายได้ได้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้มีกระแสเงินสด และรักษาสภาพคล่องของกิจการ ผลักดันให้ผลประกอบการของธุรกิจในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้น 20-30%


“ปีนี้ถือว่าเราได้งานเยอะมากเมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งปีก่อนมีแบ็กล็อกอยู่ที่ 900 กว่าล้านบาท ปีนี้น่าจะทะลุ 2,500 ล้านบาท เนื่องจากเราเปลี่ยนไปรับงานราชการมากขึ้นตอนนี้สัดส่วนเป็นงานราชการ 70% และเอกชน 30% ดังนั้นจึงคาดว่ารายได้ปีนี้เรายังโตอยู่ประมาณ 20% ซึ่งดีกว่าคนอื่น และเรายังเน้นปันผลเยอะเหมือนเดิม” นายจตุรงค์ กล่าว

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X