> Trendtalk > MEGA

15 กรกฎาคม 2020 เวลา 06:10 น.

MEGA

ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญระยะสั้นที่ 1330-1335 จุดลงไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1300 และ 1270 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญในระยะสั้นที่ 1340 จุด ถ้าสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นไปได้ จะมีแนวต้านถัดไปที่ 1360 จุด


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ MEGA หรือ บริษัท เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยา ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและสินค้าอุปโภคบริโภค (Fast Moving Consumer Goods หรือ FMCG) ชั้นนำระดับสากล ณ ปัจจุบัน MEGA เป็นผู้จัดจำหน่ายชั้นนำในประเทศกำลังพัฒนา ได้แก่ประเทศเมียนมาร์ เวียดนาม และกัมพูชา นอกจากนี้ MEGA มีการพัฒนา ผลิต ทำการตลาด และขายผลิตภัณฑ์กลุ่มบำรุงสุขภาพ ผลิตภัณฑ์ยาตามใบสั่งแพทย์และผลิตภัณฑ์ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์สุขภาพภายใต้เครื่องหมายการค้า Mega We CareTM ของบริษัทผ่านเครือข่ายการจัดจำหน่ายของบริษัทและผู้จัดจำหน่ายภายนอกใน 29 ประเทศต่างๆ ทั่วโลก


ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ปี 2563 มีรายได้รวม 3,100 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 320 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.37 บาท กำไรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 62 ที่มีรายได้รวม 2,597 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 254 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.29 บาท

นายวิเวก ดาวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เมก้า ไลฟ์ไซแอ็นซ์ (MEGA) เปิดเผยว่า บริษัทคาดปีนี้ทั้งรายได้และกำไร เติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.1 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.1 พันล้านบาท หลังจากในไตรมาส 1/63 มียอดขายเติบโต 19% มาที่ 3 พันล้านบาท ขณะที่แนวโน้ม 9 เดือนข้างหน้าก็เชื่อว่าจะไม่ได้รับผลกระทบร้ายแรงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 และมีโอกาสขายเพิ่มขึ้นเพราะในช่วงนี้ผู้บริโภคสนใจสุขภาพมากขึ้นด้วย โดยบริษัทยังมีสินค้าในสต็อกทั้งวิตามิน สมุนไพร และยาจำนวนหนึ่ง


แนวโน้มครึ่งปีหลังยากที่จะคาดการณ์ อย่างไรก็ดี สินค้ายา เช่น เบาหวาน ความดัน ก็ยังขายได้ ส่วนวิตามินก็ยังขายได้ บางประเทศยอดขายลดลงบ้าง แล้วแต่สถานการณ์แต่ละประเทศ เรายังมั่นใจเป้าเป็นไปได้ 5-10% หรือ single digit... เมื่อโควิดมาธุรกิจอื่นได้รับกระทบ แต่ธุรกิจยา วิตามิน มีผลกระทบน้อยที่สุด


ส่วนการลงทุนขยายธุรกิจโรงงานผลิตยาในประเทศเมียนมา อยู่ระหว่างการทบทวนการลงทุนอีกรอบ เพราะสถานการณ์เปลี่ยนแปลงทำให้การพิจารณาล่าช้า แต่ก็ยังเจรจากันอยู่ เพราะแนวโน้มตลาดในเมียนมา มีโอกาสเติบโตดี และมีพันธมิตรขายยาอยู่หลายบริษัท และมีทีมงานกระจายทั่วประเทศ ทั้งในตลาดยา อาหารเสริม ทำให้มีโอกาสธุรกิจจะขยายตัวในเมียนมา

ขณะที่การลงทุนในประเทศอินโดนีเซีย ยังไม่ได้มีอะไรคืบหน้าเพราะยังไม่สามารถเดินทางไปยังกรุงจาการ์ตา อินโดนีเซียได้ แต่บริษัทยังมั่นใจว่าน่าจะต่อยอดธุรกิจได้ในอนาคต เพราะอินโดนีเซียมีจำนวนประชากรมาก และแนวโน้มตลาดที่ดี


ปัจจุบัน MEGA ได้เข้าลงทุนในหลายประเทศอาเซียน ขณะที่สัดส่วนยอดขาย เป็นการส่งออก 70% ใน 32 ประเทศ ส่วนใหญ่เป็นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนในไทยมีสัดส่วนยอดขาย 30% มีทั้งผลิตภัณฑ์ We Care และ Maxxcare


MEGA มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensuses อยู่ที่ 38.13 บาท โดยมีราคาเป้าหมายสูงสุดที่ 44.00 และมีราคาเป้าหมายต่ำสุดที่ 32.00

ราคาหุ้นปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค ทำให้แนวโน้มของราคาหุ้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 44.00 และ 50.00 ตามกรอบแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 37.00 ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 35.00 และ 34.00 เป็นแนวรับสำคัญ


สนใจบทความย้อนหลัง และเรื่องราวที่น่าสนใจ สามารถหาดูได้ในเพจ Trendtalk

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X