> SET > AKR

24 กรกฎาคม 2020 เวลา 08:30 น.

AKRลุ้นงานยานยนต์ ติดโซลาร์รูฟ300ล้าน

ทันหุ้น –สู้โควิด –AKR แย้มมีโอกาสคว้างานติดตั้งโซลาร์รูฟจากลูกค้ากลุ่มยานยนต์ มูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท คาดรู้ผลเร็วๆ นี้ และอยู่ระหว่างยื่นประมูลอีกกว่า 800 ล้านบาท คาดรู้ผลกรกฎาคมนี้ พร้อมเดินหน้าชิงงานหม้อแปลงใหม่ทั้งจากภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมไม่น้อยกว่า 2.8 พันล้านบาท แววผลงานไตรมาส 3/2563 เด่น


นายดนุชา น้อยใจบุญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอกรัฐวิศวกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ AKR เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 3/2563 มีแนวโน้มเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน จากการทยอยส่งมอบงานในมือและรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ รวมถึงจากสถานการณ์แพร่ระบาดขงไวรัสโควิด-19 ที่เบาบางลง รวมถึงการปลดล็อกดาวน์ของทางภาครัฐ ทำให้บริษัทเชื่อว่าตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 เป็นต้นไป โครงการลงทุนต่างๆ ทั้งส่วนงานของภาครัฐและภาคเอกชน จะสามารถกลับมาเดินหน้าต่อได้มากขึ้น


ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทยังคงเดินหน้าขยายฐานลูกค้าในส่วนงานรับเหมาก่อสร้างโซลาร์รูฟท็อป (EPC) ทั้งรายเดิมและรายใหม่มากขึ้น ส่งผลให้ในตอนนี้ได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่าจะทยอยได้ข้อสรุปในช่วงที่เหลือของปีนี้ อย่างไรก็ดีปัจจุบันยังมีงานประมูลอีกประมาณ 800 ล้านบาท คาดรู้ผลในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปจากลูกค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ มูลค่าไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท เข้ามาเพิ่มเติม


*ลุยประมูลงาน 2.8 พันล.


ขณะเดียวกันบริษัทยังสนใจเข้าประมูลงานโครงการใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง มูลค่ารวมกว่า 2,800 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงานหม้อแปลงไฟฟ้าจากภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ มูลค่ารวมราว 500 ล้านบาท งานภาคเอกชน มูลค่าประมาณ 600-700 ล้านบาท และงานการให้บริการซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้า 800 ล้านบาท เป็นต้น ซึ่งด้วยศักยภาพในการผลิตรวมถึงความเชี่ยวชาญในงานผลิตหม้อแปลงไฟฟ้ามามากกว่า 39 ปี จะทำให้บริษัทได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากลูกค้าได้มากขึ้น


ซึ่งจากปัจจัยข้างต้นที่กล่าวมาช่วยสะท้อนต่อปริมาณงานในมือ (Backlog) ที่แข็งแกร่งในอนาคต โดยในปัจจุบันบริษัทมี Backlog ในมือประมาณ 1,000 ล้านบาท (ยังไม่นับรวมงานใหม่ที่อยู่ระหว่างการรอเซ็นสัญญา) เบื้องต้นคาดว่าส่วนใหญ่จะทยอยส่งมอบงานและรับรู้เข้ามาเป็นรายได้ภายในช่วงที่เหลือของปีนี้ และบางส่วนจะรับรู้เป็นรายได้ในปีถัดไป


อย่างไรก็ดี จากการที่บริษัทได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มก็มีโอกาสที่จะผลักดันให้ผลการดำเนินงานในปี 2563 จะสามารถเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,688.25 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 82.55 ล้านบาท


*ใส่เกียร์ลุยงานบริการ


พร้อมกันนี้ จากการขยายการให้บริการซ่อมบำรุงรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ผ่านการตรวจเช็คสภาพแบบ DGA เพื่อวัดปริมาณก๊าสในหม้อแปลงไฟฟ้าตรวจหาจุดบกพร่องในกระบวนการทำงานของหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการลดต้นทุนการดูแลรักษาหม้อแปลงไฟฟ้าต่อปีลงไปได้เป็นจำนวนมาก

โดยในส่วนงานนี้ให้มาร์จิ้นดีและมีโอกาสที่จะขยายการรับงานได้อีกมาก เพราะปัจจุบันมีหม้อแปลงไฟฟ้าขนาดใหญ่มากกว่า 2 ล้านลูก และกว่า 170,000 เป็นหม้อแปลงที่ถูกผลิตจากโรงงานของบริษัท เบื้องต้นบริษัทคาดหวังจะได้รับงานดูแลไม่น้อยกว่าเฉลี่ยปีละ 10,000 ลูก เชื่อว่าจะเข้ามาช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงานได้ในอนาคต ขณะเดียวกันบริษัทจะมีการขยายการให้บริการในต่างประเทศอีกด้วย เช่น บรูไน สิงคโปร์ มาเลเซีย เมียนมา สปป.ลาว และออสเตรเลีย เป็นต้น


อย่างไรก็ตาม หากว่าผลการดำเนินงานในปี 2563 นี้ ยังคงมีการเติบโตที่ดีได้ตามแผนที่บริษัทวางไว้ รวมถึงยังสมารถสร้างผลกำไรที่ดีขึ้นกว่าปีก่อนได้ ก็มองว่าภายในช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทจะสามารถล้างขาดทุนสะสมในส่วนที่ยังคงเหลืออยู่อีกราว 100 - 130 ล้านบาทได้ ดังนั้น จึงส่งผลให้ในปีนี้บริษัทอาจยังไม่มีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ แต่คาดว่าจะสามารถกลับมาจ่ายปันผลได้ในปี 2564 เป็นต้นไป หลังการล้างขาดทุนสะสมหมด

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X