ทันหุ้น –สู้โควิด –HMPRO ยิ้มรับยอดขายไตรมาส 3/2563 ฟื้นตัวดี แม้กำลังซื้อยังคงชะลอตัวลงและเข้าสู่หน้าฝน แต่เชื่อว่าจะดีกว่าไตรมาสก่อนหน้า ชูยอดขาย SSSG เป็นบวก ลุยเปิดสาขาใหม่ 2 แห่ง ในครึ่งปีหลัง กระตุ้นยอดขายเพิ่ม ตอกย้ำยังคงมีการจ่ายปันผลทุกปี

นางสาววรรณี จันทามงคล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท โฮมโปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ HMPRO เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกินในไตรมาส 3/2563 เชื่อว่าจะเติบโตดีกว่าไตรมาสก่อนหน้าที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 14,389.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 942.68 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลาย รวมถึงการปลดล็อกดาวน์ประเทศของภาครัฐที่ทำให้นับตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม 2563 เป็นต้นมา บริษัทสามารถทยอยเปิดให้บริษัทสาขาโฮมโปรได้เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ แม้ว่าในช่วงไตรมาส 3/2563 โดยปกติจะเป็นโลว์ซีซันของธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อนสร้าง เนื่องจากฤดูฝนเป็นอุปสรรคต่อการก่อสร้าง รวมถึงปัจจัยกำลังซื้อที่ชะลอตัวลงในปัจจุบัน แต่เนื่องด้วยในไตรมาส 2/2563 การล็อกดาวน์ประเทศส่งผลให้บริษัทมีความจำเป็นการหยุดให้บริการชั่วคราวของทั้งโฮมโปร 69 สาขา และเมกาโฮม 8 สาขา เป็นต้น ซึ่งมีผลทำให้รายได้จากการขายและการปล่อยเช่าพื้นที่หายไปกว่า 45 วัน อย่าไงรก็ดี ถึงแม้ว่ายอดขายในช่องทางออนไลน์จะเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 9% แต่มองว่ายังคงไม่สามารถเข้ามาชดเชยส่วนที่สูญเสียไปได้ทั้งหมด

*ลุยเปิดสาขาใหม่ครึ่งปีหลัง

ขณะที่ยอดขายของสาขาเดิม (SSSG) เริ่มปรับตัวเป็นบวกตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมาแล้ว และยังคงทรงตัวในทิศทางที่เป็นบวกจนถึงปัจจุบัน สำหรับสาขาโฮมโปรที่ประเทศมาเลเซีย ทั้ง 6 แห่ง ต้องยอมรับว่าในปีนี้ยังคงมีผลขาดทุนอยู่ เพราะได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานในปี 2563นี้ ต้องยอมรับว่าการเติบโตอาจปรับตัวลดลงกว่าเป้าหมายที่วางการเติบโตทั้งปีนี้ไว้ที่ 2-3% จากปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 67,423.88 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,176.59 ล้านบาท

ส่วนแผนการลงทุนในช่วงครึ่งหลังปี 2563 นั้น บริษัทยังคงเดินหน้าขยายสาขาโฮมโปร เพิ่มอีก 2 สาขา ส่งผลให้ปลายปีนี้บริษัทจะมีสาขาโฮมโปรเพิ่มเป็น 86 สาขา จากปัจจุบันอยู่ที่ 84 สาขา ส่วนโฮมโปรเอสในปีนี้ยังไม่แผนขยายสาขาใหม่ทำให้สิ้นปียังคงมีสาขาเท่าเดิมที่ 9 สาขา เช่นเดียวกันกับเมกาโฮมที่คงจำนวนสาขาทั้งสิ้น 14 สาขา โดยในปีนี้บริษัทมองว่าสถานการณ์ในประเทศยังดูมีความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนของการระบาดไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่มุ่งเน้นการเพิ่มขาสาขาใหม่ แต่เน้นที่การบริหารจัดการและควบคุมดูแลต้นทุนทาการเงินให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด

*ตอกย้ำยังจ่ายปันผล

อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าผลการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2563จะมีทิศทางการปรับตัวที่ดีขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 HMPRO มีรายได้รวมอยู่ที่ 29,720.60 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,209.20ล้านบาท เนื่องจากไม่มีการล็อกดาวน์ประเทศแล้ว แต่สถานการณ์ในประเทศก็ยังคงนิ่งนอนใจไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าการระบาดจะเกิดขึ้นเป็นรอบที่ 2 อีกหรือไม่

สำหรับแผนการจ่ายปันผลในงบปี 2563 นี้ เบื้องต้นมองว่าบริษัทยังคงนโยบายการจ่ายปันผลที่ไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ อาจต้องรอดูมติเห็นชอบของทางคณะกรรมการบริหารบริษัทด้วย กรณีหุ้นกู้ที่ใกล้ครบกำหนดไถ่ถอนในไตรมาส 4/2563 นั้น ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาและพิจารณาเงินจากหลายแห่ง ทั้งออกตั๋วเงินระยะสั้น การขอกู้จากธนาคารพาณิชย์ โดยหลักการพิจารณานั้นตามอัตราดอกเบี้ยเป็นสำคัญ

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1