ทันหุ้น – สู้โควิด - BM ส่งสัญญาณธุรกิจปีหน้าโตต่อ 5-20% ชี้กลุ่มรับเหมาขยายตัว ตุนงานรอส่งมอบ 500 ล้านบาท ส่วนกลุ่ม B2B ไปได้สวย เล็งคลอดโปรดักส์ใหม่ขายอเมริกา ด้านผู้บริหารลั่นมกราคมนี้ เดินเครื่องโรงงานใหม่ ใส่เกียร์โกยเงินเพิ่ม มั่นใจรายได้ปีนี้มาตามนัดทะลุ 1 พันล้านบาท

นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีหน้า หรือปี 2564 โต 5-20% ต่อจากปีนี้ โดยการเติบโตจะมาจากทุกกลุ่มธุรกิจที่กลับมาฟื้นตัวได้ดี บริษัทเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 ที่ผ่านมา ขณะที่ปัจจุบันลูกค้ากลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (Construction)สามารถดำเนินโครงการได้แล้วตามปกติ เช่น โครงการรถไฟฟ้า ซึ่งเรียกให้ผู้ประกอบการส่งวัตถุดิบที่เกี่ยวกับงานก่อสร้าง หรือส่วนที่เกี่ยวข้อง ส่งมอบมอบสินค้าให้เร็วที่สุด ทำให้บริษัทต้องเร่งมือผลิตสินค้าและส่งมอบให้ทันตามกำหนด

เร่งส่งมอบงาน

ขณะเดียวกันยังมีงานอื่น เช่น งานจากกลุ่ม ปตท. ที่บริษัทเริ่มรับงานเข้ามา ปัจจุบันอยู่ระหว่างผลิตเครื่องมือใหม่ เพื่อใช้ในการผลิตสินค้า สำหรับกลุ่มรับเหมาก่อสร้างแต่ละปี บริษัทสามารถรับงานได้เฉลี่ย 500-600 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้รับคำสั่งซื้อ(ออร์เดอร์) เพื่อรอส่งมอบมาแล้วในระดับ 500 ล้านบาท และคาดจะทยอยส่งมอบให้ทันกำหนด

ขณะที่กลุ่ม B2B หรือการจำหน่ายเครื่องจักรกลทางการเกษตรให้กับลูกค้ากลุ่มคูโบต้า แนวโน้มออเดอร์ช่วงปลายปีมีเพิ่มขึ้น ซึ่งปกติปลายปีจะไม่ใช่ช่วงการผลิตและจำหน่ายสินค้าที่มีปริมาณมาก พร้อมกันนี้ลูกค้าทางอเมริกา ได้สั่งผลิตและจำหน่ายสินค้าประเภทแม่พิมพ์โลหะ ตู้โลหะ จึงทำให้มีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่อง

โดย 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้ มีออเดอร์เข้ามาทุกวัน มีมูลค่างานอยู่ที่ 70-80 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในระดับค่อนข้างสูง ทำให้บริษัทต้องประเมินกำลังการผลิต และการรองรับการเติบโตในปี 2564 อีกทั้งบริษัทเตรียมจะผลิตสินค้าใหม่ เพื่อส่งออกไปจำหน่ายให้กับลูกค้าอเมริกาอีก 2 ผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มยอดขายในกลุ่มส่งออก

รักษาฐานมาร์จิ้น

นายธีรวัต กล่าวต่อว่า ภายในเดือนมกราคม 2564 บริษัทคาดจะเริ่มเดินเครื่องงานใหม่ ซึ่งเป็นการร่วมทุนกับ NITTO KOGYO และเริ่มมีรายได้เข้ามา

สำหรับกลยุทธ์ในปี 2564 บริษัทจะเร่งเพิ่มยอดขาย เร่งผลิตและส่งมอบให้กับลูกค้า โดยไม่เน้นการจำหน่ายสินค้าขนาดใหญ่ และใช้เวลาในการเก็บเงินกับลูกค้านานเกินไป เพื่อรักษาฐานมาร์จิ้นให้อยู่ในระดับสูง ทั้งนี้บริษัทคาดว่าทิศทางมาร์จิ้นในปี 2564 จะทำได้ใกล้เคียงกับปีนี้ ส่วนปีนี้บริษัทมั่นใจรายได้จะเติบโตตามเป้าหมาย หรือมีรายได้เกิน 1 พันล้านบาท จากปีก่อน 913.34 ล้านบาท อนึ่ง 9 เดือนแรกบริษัทมีรายได้แล้วที่ 692.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 39.15 ล้านบาท

สินค้าของบริษัทครอบคลุมใน 7 กลุ่มงาน 1.กลุ่มงานรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า 2.กลุ่มงานผลิตตู้โลหะ 3.กลุ่มงานตู้สวิตช์บอร์ด 4.กลุ่มงานเชื่อมประกอบ 5.กลุ่มงานกลุ่มเครื่องมือและเครื่องจักรกล 6.กลุ่มงานผลิตชิ้นส่วนให้กับคูโบต้า และ 7.กลุ่มธุรกิจอื่น ที่เป็นธุรกิจการค้าระหว่างหน่วยงานธุรกิจกับหน่วยธุรกิจ (B2B)

ปรับโมเดลธุรกิจ

นายธีรวัต กล่าวก่อนหน้านี้ว่า บริษัทปรับโมเดลการดำเนินธุรกิจไปสู่ New Normal เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับตัวและการใช้ชีวิตประจำวัน โดยรับจ้างผลิตและขายสินค้าให้กับลูกค้า (OEM) และการออกแบบสินค้าให้กับลูกค้า (ODM) จากที่เดิมบริษัทผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์บริษัทเองและขายให้กับกลุ่มผู้รับเหมา แต่ที่ผ่านมากลุ่มผู้รับเหมาได้รับผลกระทบการดำเนินงาน จากกรอบควบคุมเวลา หรือเคอร์ฟิว ส่งผลให้บริษัทส่งมอบงานให้ลูกค้าล่าช้ากว่ากำหนด