ทันหุ้น – JWD เคาะเป้ารายได้ปี 2564 ทะยาน 10% จากปี 2563 รับดีมานด์ขยายตัว แถมควักงบ 450 ล้านบาท ผุดคลังสินค้า17,000 ตารางเมตร ปูทางโกยเงินเพิ่ม ด้านโบรกเกอร์ แนะสอย อัพเป้าหมาย 11.70 บาท ฟันธงปี 2564 กำไรพุ่งเฉียด 400 ล้านบาท

นายชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจดับเบิ้ลยูดีอินโฟโลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน เปิดเผยว่า ในปี 2564 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 10% เมื่อเทียบกับปี 2563เนื่องจากมองแนวโน้มความต้องการ (ดีมานด์) คลังสินค้าจะขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบกับธุรกิจมีการขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลสัดส่วนรายได้ของ JWD ล่าสุด แบ่งเป็นการดำเนินธุรกิจบริหารและให้เช่าคลังสินค้าในรูปแบบต่างๆ ในประเทศราว 75%,การดำเนินธุรกิจทางด้านโลจิสติกส์ในต่างประเทศอีกราว 25% รวมทั้งยังมีแนวทางทำตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพิ่มเติมเพื่อขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น

*สร้างคลังใหม่เพิ่ม

ขณะเดียวกันทางบริษัทมีแผนทุ่มงบราว 450-500 ล้านบาท เพื่อดำเนินการพัฒนาคลังสินค้าแห่งใหม่เพิ่มเติม หลังล่าสุดบริษัท แปซิฟิค ห้องเย็น จํากัด (PCS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ JWD ได้มีการร่วมทุนกับบริษัท เอ็ม เอ็ม พี อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด ผู้ประกอบธุรกิจผลิตอาหารทะเลบรรจุกระป๋อง เพื่อจัดตั้งร่วมทุนแห่งใหม่ คือ บริษัท แปซิฟิค เอ็ม โคลด์ สโตเรจ จํากัด (PACM) รองรับการพัฒนาคลังสินค้าในส่วนดังกล่าว ซึ่งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวนั้นจะมีทางบริษัทย่อย PCS และผู้บริหารของบริษัทย่อยดังกล่าวถือหุ้นในสัดส่วนราว55% ส่วนที่เหลืออีก 45% นั้นถือหุ้นโดยพาร์เนอร์คือ บริษัท เอ็ม เอ็ม พี อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด

โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นั้นจะขนาดพื้นที่ประมาณ 17,000 ตารางเมตร ซึ่งตั้งอยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งมีทางบริษัทย่อยของ JWD เป็นผู้รับหน้าที่บริหารคลังสินค้าแห่งนี้และถือเป็นอีกช่องสร้างรายได้ในระยะยาวให้กับทาง JWD ซึ่งจะทำให้พื้นที่เช่าของธุรกิจปรับตัวสูงขึ้น จากเดิมที่มีราว 1 ล้านตารางเมตร

ส่วนประเด็นเกี่ยวกับความชัดเจนเรื่องวัคซีนป้องกันการแพร่ระบาด COVID-19 บริษัทมองว่าน่าจะไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ และเชื่อน่าจะสามารถบริหารจัดการในส่วนต่างๆ ได้

กำไรแกร่งอัพเป้า 11.7 บ.

บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง JWD ปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 11.70 บาท จากเดิม 10.00 บาท เนื่องจากมีการปรับกำไรเพิ่มขึ้น รวมถึง Outlook ระยะยาวที่ดูสดใสมากขึ้น โดยมี key catalyst จากกำไรไตรมาส 4/2563 ที่จะฟื้นตัว

พร้อมกันนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คาดเติบโตในปี 2564 ยังโดดเด่นโดยการปรับกำไรขึ้น มีประเด็นสำคัญคือ 1. คลังสินค้าทั่วไปในไตรมาส 4/2563 มี Occupancy rate เพิ่มขึ้นเป็น 96% จากไตรมาส 3/2563 ที่ 90%โดยโควิด-19 ในต่างประเทศ ทำให้มีการเช่าคลังเก็บสินค้านานขึ้น

*รับผลบวกยานยนต์ฟื้น

ขณะเดียวกันในส่วนของธุรกิจยานยนต์ได้ผลบวกจากยอดผลิตรถยนต์ฟื้นตัว และมีโอกาสที่จะได้ลูกค้ารายใหม่, ประกอบกับคลังสินค้าอันตรายฟื้นตัวกลับไปใกล้เคียงก่อนช่วงเกิดโควิด-19 แล้ว และปี 2564 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก 20-50% หรือจะเพิ่มขึ้นเป็น 1.2-1.5 หมื่นตู้ต่อเดือน จากปัจจุบันที่ 1 หมื่นตู้ต่อเดือน รวมถึงยังมีศึกษาโอกาสใช้คลังห้องเย็นและขนส่งวัคซีนโควิด-19ที่ต้องใช้อุณหภูมิต่ำ โดย JWD อยู่ระหว่างศึกษาโอกาสทางธุรกิจดังกล่าวทั้งการใช้คลังห้องเย็น และการขนส่งวัคซีนที่ต้องใช้อุณหภูมิต่ำ คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่เกินกลางปีหน้า ซึ่งหากได้งานดังกล่าวอาจช่วยเพิ่มรายได้อย่างมีนัยสำคัญให้กับ JWD ได้

ดังนั้น จากปัจจัยดังกล่าว ทำให้ทางฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2563 ขึ้น 2% เป็น 301 ล้านบาท หรือลดลง 17% จากปีก่อน โดยกำไรไตรมาส 4/2563 ยังเติบโตจากไตรมาส 3/2563 และปรับกำไรปี 2564 ขึ้น 9% เป็น 383 ล้านบาท

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1