ทันหุ้น – COTTO ย้ำสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะกลุ่มซ่อมแซม, ปรับปรุงอาคาร – ที่พักอาศัยยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดหนุนรายได้ต่อเนื่อง ลุยออกผลิตภัณฑ์ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว ควบแตกไลน์รุกธุรกิจแนะนำ ติดตั้งแผลโซล่าเน้นลดต้นทุน ประหยัดพลังงานให้ลูกค้า

นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ COTTO ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องภายใต้แบรนด์คอตโต้ (COTTO), โสสุโก้ (SOSUCO), และ คัมพานา (CAMPANA) กล่าวว่าปัจจุบัน งานก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานระดับประเทศ งานโครงการสำคัญในแต่ละพื้นที่ ยังคงเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันภาพรวมของอุตสาหกรรมการก่อสร้าง รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2564 ให้สามารถขับเคลื่อนไปได้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงครึ่งปีแรก2564 การลงทุนในภาคเอกชนจะยังคงชะลอตัวทั้ง Residential and Commercial Sector ซึ่งเป็นผลกระทบต่อเนื่องจากโควิด-19 คาดว่าการกระจายวัคซีนอย่างรวดเร็วและทั่วถึง รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นจากภาคธุรกิจและเอกชน ตลอดจนกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศได้และจะส่งผลให้เศรษฐกิจค่อย ๆ กลับมาฟื้นตัวในที่สุด

สำหรับสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างโดยเฉพาะกลุ่มซ่อมแซม, ปรับปรุงอาคาร – ที่พักอาศัยยังคงเป็นที่ต้องการชองตลาด จากการการทำงานแบบ Work from home ส่งผลให้ผู้บริโภคที่ต้องอยู่บ้าน มีความต้องการในการปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เหมาะสม เพื่อให้สามารถทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นเทรนด์ความต้องการสินค้าที่จะมาช่วยขับเคลื่อนตลาดวัสดุก่อสร้างในปีนี้ จะเป็นเทรนด์ Health & Hygiene, Well-being, Energy ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญและต้องการสินค้าและบริการที่สะอาดและปลอดภัย ตอบรับกระแสความใส่ใจในสุขอนามัย รวมไปถึงการประหยัดพลังงานด้วย

รุกพลังงานสะอาด

ด้านกลยุทธ์การตลาดบริษัทจะเน้นการทำ Innovation & Service Solutions เพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าและตลาดอย่างต่อเนื่อง เช่น กระเบื้องกลุ่ม Hygienic Tile และ Health and Clean Tile ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังได้ขยายตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่มีความต้องการวัสดุกรุผิวประเภทอื่น ๆ นอกเหนือจากกระเบื้องเซรามิก โดยออกสินค้าใหม่ คือ แผ่นปูพื้น LT แบบ Smart Flexible by COTTO ที่ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว เพื่อตอบโจทย์เรื่องการปรับปรุงที่อยู่อาศัย (Renovation) ให้เหมาะกับกิจกรรมที่หลากหลายมากยิ่งขึ้นด้วย ขณะเดียวกันบริษัทจะเน้นการพัฒนาการตลาดบนดิจิทัลแพลตฟอร์ม เพื่อตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป Digital Transformation มีบทบาทมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทจะขยายธุรกิจด้านพลังงานภายใต้แบรนด์ “SUSUNN” ให้คำปรึกษา ออกแบบ จำหน่าย ติดตั้งระบบผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดโดยเฉพาะโซลาร์เซลล์ วิสัยทัศน์มุ่งเป็นผู้ให้บริการ (solution provider) ด้านวิศวกรรม พลังงาน และนิคมอุตสาหกรรมในระดับอาเซียน ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล โดยเริ่มดำเนินการ 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยมั่นใจว่าเป็นสินค้าที่มีศักยภาพเติบโตในอนาคต

2.solar carport solutions บริการออกแบบและติดตั้งระบบหลังคาโซลาร์เซลล์สำหรับลานจอดรถ สะดวกรวดเร็ว ประหยัด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน สามารถถอดประกอบ ย้ายพื้นที่ติดตั้งได้ง่าย เพื่อบริหารพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

3.energy management บริการด้านการจัดการพลังงาน ตรวจรับรองการจัดการพลังงาน ตรวจวัดวิเคราะห์การใช้พลังงานและโครงการอนุรักษ์พลังงานให้กับลูกค้าด้วยมาตรฐานสากล พัฒนาระบบพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานภาคอุตสาหกรรม และ 4.solar monitoring system ระบบตรวจวัดและควบคุมการใช้พลังงานผ่านแอปพลิเคชั่น

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1