ทันหุ้น –จับตา AIE-W2 เข้าซื้อขายใน mai วันนี้ (17 พ.ค.64) นักวิเคราะห์คาดครึ่งปีหลังเข้าสู่โหมดฟื้นตัว จากแรงหนุนของธุรกิจไบโอดีเซลคาดจะกลับมาเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว การขนส่ง และภาคอุตสาหกรรม แถมมีปัจจัยบวกจากงานลูกถ้วยไฟฟ้า บิ๊ก ”ธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์” มั่นใจพื้นฐานแกร่ง เชื่อภาพรวมทั้งปีไม่กระทบจากโควิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ค.64) ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทบริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE-W2 จะเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) จำนวน 1,046,436,734 หน่วย ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญเดิม (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้(par value) หุ้นละ0.25 บาท) ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ (5:1)

โดยผู้ถือใบสำคัญแสดงสิทธิสามารถใช้สิทธิในการซื้อหุ้นรองรับของบริษัทได้ 3 ครั้ง คือ วันที่31 มีนาคม 2565 วันที่ 30 กันยายน 2565 และวันที่ 4 พฤษภาคม 2566  โดยวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งแรกคือวันที่ 31 มีนาคม 2565 และวันกำหนดการใช้สิทธิครั้งสุดท้ายคือวันที่ใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุครบ 2 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิซึ่งตรงกับวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 ในอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนได้ 1 หุ้นสามัญ

*ครึ่งปีหลังกลับมาแกร่ง

บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ระบุถึง บริษัท เอเชียน อินซูเลเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ AI และ บริษัท เอไอ เอนเนอร์จี จำกัด (มหาชน) หรือ AIE ว่า บริษัทจะสามารถเติบโตได้จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยแรงหนุนจากธุรกิจไบโอดีเซล ที่คาดจะกลับมาเติบโตจากภาคการท่องเที่ยว การขนส่งและภาคอุตสาหกรรม โดยในด้านธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้า ที่มีกลุ่มลูกค้าหลักกว่า 85% คือ กฟภ. และ กฟน. มีปัจจัยหนุนจากงานประมูลที่คาดว่าบริษัทจะได้ส่วนแบ่งรายได้ราว 50%

และแม้ว่าธุรกิจรับเหมาในครึ่งปีแรก อาจจะหยุดชะงัก เพราะการชะลอการก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยต่างๆ จากความเสี่ยงของ โควิด-19 แต่คาดว่าทั้งปี 2564 จะรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมามูลค่า 399 ล้านบาท ทำให้ยังมีโอกาสที่ผลประกอบการจะกลับมาเติบโตได้ในช่วงครึ่งปีหลัง คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 5 บาท

*โควิดกระทบครึ่งปีแรก

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีมุมมองในลักษณะเดียวกันว่า ถึงเเม้ผลประกอบการในช่วงไตรมาสที่ 2/2564 จะยังคงได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าผลประกอบการจะกลับมาเติบโตแข็งแกร่งในช่วงครึ่งปีหลังหลังจากคลายล็อกดาวน์ ดังนั้น จึงยังคงคำ แนะนำ "ซื้อ" AI ที่ราคาพื้นฐานใหม่ที่ 3.90 บาท (เพิ่มขึ้นจากเดิม 42%) อิงกับ P/E ปี 2564 ที่ 14.2 เท่า ซึ่งเทียบเท่า World Energy Sector

แม้ว่าภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีแรกทั้ง 2 บริษัท จะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รอบที่ 3 ซึ่งทำให้ 1. รายได้จากธุรกิจลูกถ้วยไฟฟ้าลดลง 14.2% จากช่วงเดียวกัยของปีก่อน จากปริมาณการ จำหน่ายลูกถ้วยไฟฟ้าที่ลดลง 2.รายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างลดลง 50.0% จากช่วงเดียวกัยของปีก่อน เนื่องจากการชะลอการก่อสร้างในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และ3.รายได้จากธุรกิจไบโอดีเซล น้ำมันพืช และผลพลอยได้ลดลง 21.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากปริมาณการจำหน่าย น้ำมันไบโอดีเซลที่ลดลง ซึ่งเกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในระลอก 3 ทำให้มีกิจกรรม การเดินทางลดน้อยลง ทั้งภาคท่องเที่ยวและขนส่ง ทำให้กำไรสุทธิลดลงต่ ากว่าที่คาดไว้ถึง 38%

*ย้ำทั้งปีไม่กระทบ

ด้านนายธนิตย์ ธารีรัตนาวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AI เปิดเผยว่า ทิศทางในไตรมาสที่ 2/2564 คาดว่าจะยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อยู่ ซึ่งต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะส่งผลกระทบมากหรือน้อยอย่างไร เพราะยังคาดการณ์สถานการณ์ไม่ได้  หากมองภาพรวมทั้งปีทางบริษัทเอง ยังเชื่อว่าคงไม่กระทบต่อผลประกอบการมากนัก หรือหากกระทบประเมินว่าจะอยู่ที่ประมาณ 10-20% บริษัทหวังว่าระยะถัดไป หากรัฐบาลมีการเร่งฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 ทำให้สถานการณ์เริ่มคลายความกังวล และกลับมาสู่สภาวะปกติก็เชื่อว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก

อยากลงทุนสำเร็จ เป็นเพื่อนกับเรา พร้อมรับข่าวสารได้ทุกช่องทางที่
APP ทันหุ้น ANDROID คลิ๊ก https://qrgo.page.link/US6SA
APP ทันหุ้น IOS คลิ๊ก https://qrgo.page.link/QJKT7
LINE@ คลิ๊ก https://lin.ee/uFms4n5
FACEBOOK คลิ๊ก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิ๊ก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
TELEGRAM คลิ๊ก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิ๊ก https://twitter.com/thunhoon1