'ทิสโก้' สแกน HANA เปิด 3 ปัจจัย ฉุดราคา

#HANA #ทันหุ้น - บล.ทิสโก้ จำกัด ส่องหุ้น บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จำกัด (มหาชน) หรือ HANA กำไรปี 2565 พอใช้ได้ แต่การพัฒนา PMS ยังคงเป็นไปตามแผน กดดันในระยะสั้นยังคงฉุดราคา HANA จาก i) อุปทานชะงักในประเทศจีน ii) การชะลอตัวในส่วนของสมาร์ทโฟนและ iii) การปรับลด EPS โดย consensus แผนการเปลี่ยนแปลงธุรกิจของบริษัทผ่าน PMS ยังคงอยู่ตามแผนในมุมมองของฝ่ายวิจัย อุปกรณ์ SiC MOSFET ของ HANA ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติครบถ้วน และสร้างความสนใจให้กับลูกค้าเป็นอย่างมาก HANA ยังคงคำแนะนำขาดทุนจากการดำเนินงานที่ 600 ล้านบาท สำหรับกลุ่ม PMS โดยมีเป้าหมายจุดคุ้มทุนภายในสิ้นปี 2567 หรือต้นปี 2568 แนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าเหมาะสมที่ 70 บาท (จาก 74 บาท)

GPM ถูกกดดันจากการหยุดชะงักในโรงงานที่ Jiaxing ในช่วง Q2/65F แม้ว่าโรงงานใน Jiaxing (18% ของรายได้ทั้งหมดในปี 2563 ประมาณ 100 กม. จากเซี่ยงไฮ้) จะไม่ได้ถูกล็อกดาวน์ แต่ผลผลิตที่โรงงานคาดจะลดลงประมาณ 20-25% เนื่องจากปัญหาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่ส่งผลต่อการจัดหาวัตถุดิบ นอกจากนี้ การชะลอตัวของตลาดสมาร์ทโฟนของจีนน่าจะส่งผลกระทบต่อความต้องการ IC ใน Jiaxing จึงคาด GPM จะค่อนข้างอ่อนแอใน Q2/65 ที่ราว 11% แม้บาทจะค่อนข้างอ่อน แม้ฝ่ายวิจัยคาดปัญหาด้านซัพพลายจะผ่อนคลายลงในเดือนมิถุนายน แต่คาดการดำเนินงานจะใช้เวลาสักพักก่อนกลับสู่ปกติ

ปรับกำไร 2565/66 ลง 5%/3% ตามลำดับ เพื่อรองรับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในจีนของ HANA ฝ่ายวิจัยได้ปรับ i) ยอดขายใน USD ลง -3%/-1% เหลือ 789- 898 ล้านดอลลาร์ และ ii) ลดสมมติฐาน GPM สำหรับ 2565 เป็น 11.7% จาก 12.7% เพื่อสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นในประเทศจีน และ product mix ในกลุ่มอุตสาหกรรม ทำให้กำไร 2565/66 ลดลง -5%/-3% ในขณะที่การล็อกดาวน์ในจีนอาจฉุดการดำเนินงานต่อ เราคาดว่าจะเห็นการปรับปรุง QoQ ในช่วง Q3/65 ตามการฟื้นตัวของ GPM หนุนโดย i) เงินบาทอ่อนค่า ii) การขาดทุนจากธุรกิจ SiC น้อยลง และ iii) product mix ที่ดีขึ้น

แนะนำ “ซื้อ” ด้วยมูลค่าเหมาะสมที่ 70 บาท ประเมินมูลค่าเหมาะสมอิง DCF (WACC 8.2%, terminal growth rate 2.0%) ความเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ขาดทุนช่วงแรกใน PMS, ค่าเงินบาทแข็งค่า, การพึ่งพาอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน, การขาดแคลนอุปทาน และความสำเร็จของ PMS