#ทันหุ้น - สวัสดีครับท่านนักลงทุน SET Index หลังหลุดบริเวณ 1600 จุด และยังไม่สามารถกลับมายืนเหนือได้ หลังมีแรงขายลดความเสี่ยงที่มีต่อภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นและความกังวลเศรษฐกิจโลกอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย ทั้งนี้ภาพรวม Fund Flow ยังมีทิศทางไหลออกตามการอ่อนค่าของเงินบาท โดยสองสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยราว 8.5 พันลบ. และส่งผลให้เดือน มิ.ย. ต่างชาติมียอดขายสุทธิ 2.9 หมื่นลบ. ซึ่งนับเป็นการพลิกกลับมาขายสุทธิเป็นเดือนแรกในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา

ด้านแนวโน้ม SET ยังมีความผันผวนสูงเช่นเดียวกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ เพราะนอกจากจะขาดปัจจัยหนุนแล้ว ด้วยภาพใหญ่ของเศรษฐกิจที่ยังไม่สดใส เนื่องจากมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นหลังจากเฟดส่งสัญญาณใช้นโยบายการเงินตึงตัวเต็มที่เพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้ได้ ซึ่งทำให้ความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเกิดภาวะถดถอย (Recession) ในอนาคตมีเพิ่มขึ้นจากเดิม ทำให้คาดว่าจะเริ่มเห็นเงินเฟ้อที่สูงส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อ ทำให้หลายกลุ่มอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตชะลอตัวลงในฝั่งของรายได้ ซึ่งจะเป็นภาพที่ถ่ายโอนความเสี่ยงจากเศรษฐกิจมหภาคไปยังเศรษฐกิจจุลภาคมากขึ้น ทำให้มุมมองการลงทุนยังเป็นไปอย่างระมัดระวังและต้องเลือกลงทุนมากขึ้น

ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนจึงแนะนำ “Selective Buy” ซึ่งแม้ตลาดหุ้นมีความผันผวน และมีความเสี่ยงในทางลงได้อยู่ อย่างไรก็ตาม การเลือกหุ้นอย่างมีคุณภาพ ยังสามารถสร้างผลตอบแทนได้ โดยเน้นในหุ้นที่ปลอดภัยที่มีคุณภาพดี และ/หรือ มีปัจจัยบวกเฉพาะ ดังนี้ 1) กลุ่มหุ้นที่คาดโมเมนตัมกำไรเติบโตดี และได้ประโยชน์จากตลาดตะวันออกกลางที่มีกำลังซื้อหรือเศรษฐกิจเติบโตดี เลือก OSP CBG CPF GFPT SAT VNG BH2) กลุ่มหุ้นพลังงานซึ่ง 2Q65 คาดกำไรยังเติบโตเด่น จากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น และแนวโน้มตลาดพลังงานที่ยังตึงตัว เลือก BCP ที่มีความโดดเด่นในด้านธุรกิจมีการกระจายความเสี่ยง และเงินปันผลในระดับน่าสนใจ3) กลุ่มหุ้นธนาคารซึ่งคาดพรีวิวงบ 2Q65 กำไรเติบโตดีทั้ง YoY และ QoQอีกทั้งได้อานิสงส์จากวัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น เลือก KBANK BBL

ส่วนกลุ่มที่แนะนำเพิ่มความระมัดระวังการลงทุน ได้แก่ 1) หุ้นที่ได้รับผลกระทบลบจากดอกเบี้ยขาขึ้น อาทิ หุ้นที่มีการปล่อยสินเชื่อเช่าซื้อสูง (THANI AEONTS MTC TISCO KKP) และ หุ้นที่มีภาระหนี้สินสูง อาทิ กลุ่มขนส่งบก กลุ่มโรงไฟฟ้า 2) หุ้นกลุ่มปาล์มอาทิ UVAN, UPOIC, VPO, CPI ที่คาดได้ผลกระทบเชิงลบจากราคาปาล์มที่อยู่ในทิศทางขาลง หลังปัญหาอุปทานขาดแคลนคลี่คลายลง และ 3) หุ้นขุดเหมืองซึ่งคาดได้ผลลบจากการปรับลงของราคา BTC และมีต้นทุนไฟฟ้าสูงขึ้น ทำให้ผลตอบแทนหรือระยะเวลาคืนทุนจะแย่กว่าคาด

สุดท้ายนี้ ในบรรดากลุ่มหุ้นต่างๆ ที่แนะนำ ผมเลือกมา 5 ตัว เพื่อจัดพอร์ตไว้เป็นแนวทางให้กับท่านนักลงทุน เพื่อต่อสู้กับตลาดที่มีความผันผวน โดยหุ้นที่ผมแนะนำ ได้แก่

1) KBANK การจัดตั้ง JK AMC ช่วยเพิ่มความสามารถทำกำไรและสร้างความแข็งแกร่งให้งบดุล ขณะที่ราคาหุ้นคาดได้อานิสงส์บวกต่อเนื่องจากการเข้าสู่วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น ส่วน valuation น่าสนใจและคาดการณ์กำไรจะฟื้นตัวได้ดีในปี 65

2) BBL ได้ประโยชน์วัฏจักรดอกเบี้ยขาขึ้น ขณะที่ Valuation น่าสนใจซื้อขายด้วย PBV 22F ต่ำที่ 0.5x เทียบกับ ROE ที่ 6.3% ทำให้เป็นหุ้น laggard play มองราคาหุ้นยังไม่สะท้อนแนวโน้มกำไรที่เติบโตดีขึ้น

3) BCP หุ้นโรงกลั่น ซึ่งราคาหุ้นปรับตัวลงแรง สะท้อนความกังวลเรื่องรัฐบาลขอความร่วมมือนำกำไรส่วนเกินส่งเข้ากองทุนน้ำมันไปแล้ว ส่วน 2Q65 คาดกำไรยังเติบโตเด่น จากราคาน้ำมันและค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น

4) CPF 2Q65 คาดกำไรจะดีขึ้น QoQ จากราคาสัตว์บกที่ดีขึ้น และการกลับมาของแรงงานในโรงงานไก่เนื้อในประเทศ ขณะที่ทั้งปี 65 คาดกำไรปกติฟื้นตัวเด่น YoY จากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากบริษัทร่วมรวมทั้งธุรกิจสัตว์บกในไทยและธุรกิจสุกรในเวียดนามที่ดีขึ้น

5) CBG ช่วงสั้นราคาอลูมิเนียมกลับมาทิศทางขาลง ลดแรงกดดันด้านต้นทุนบรรจุภัณฑ์ คาดกำไรทำจุดต่ำสุดใน 1H65 และเข้าสู่ขาขึ้นตั้งแต่2H65 อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น (คาดราคาอลูมิเนียมสูงสุดแล้วใน 1Q65)การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ และปริมาณการขายตลาดต่างประเทศเติบโต...แล้วพบกันใหม่ในคอลัมน์ฉบับหน้า ด้วยรัก และหวังดี

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1