#SINGER #ทันหุ้น – SINGER ย้ำเป้าปีนี้ผลงานโต 75% จากปีก่อน รับยอดขายพุ่ง-สินเชื่อทะยาน หวังดันบริษัทย่อย “SCG” เข้าเทรด SET ช่วงไตรมาส 3/2565 โบรกชูหุ้น Growth Stock ประเมินคาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของบริษัท

นายกิตติพงศ์  กนกวิไลรัตน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เปิดเผยว่า แนวโน้มผลงานในครึ่งหลังปี 2565 บริษัทประเมินว่ายังดีขึ้นต่อเนื่อง สอดคล้องกับบรรยากาศที่เริ่มกลับมาดีขึ้น จากปัจจัยโควิดที่เริ่มคลี่คลาย นอกเหนือจากต้นทุนทางเงินของบริษัทที่ปรับลดลงอย่างชัดเจน ตลอดจนธุรกิจสามารถดำเนินกลยุทธ์ต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ ในปี 2565 ผลการดำเนินงานของบริษัทเชื่อจะเป็นตามเป้าที่ตั้งไว้เติบโตได้ราว 75% จากปีก่อนที่มีกำไรราว 700 ล้านบาท จากยอดขายสินค้าของบริษัทขยายตัว ส่งผลให้ตัวเลขการปล่อยสินเชื่อขยับเพิ่มในทิศทางเดียวกัน หลังบริษัทมีการเพิ่มทีมขายที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตลอดจนประกอบกับพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase : HP) ขยายตัว

*เข็นบ.ย่อยเข้าตลาด Q3

ส่วนเรื่องการนำบริษัท เอสจี แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ SGC ผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อภายใต้แบรนด์ “รถทำเงิน” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ SINGER เพื่อเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนนั้นปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งหวังได้เห็นความชัดเจนในไตรมาส 3/2565

โดยโครงสร้างธุรกิจของ SGC ทั้งนี้ SGC คือผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อในกลุ่ม SINGER ประกอบด้วย สินเชื่อเช่าซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องใช้ในครัวเรือน (Home Appliances) เครื่องใช้ไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ (Commercial Appliances) และ เครื่องจักร (Captive Finance), สินเชื่อประเภทให้เช่าซื้อรถยนต์แบบโอนกรรมสิทธิ์เล่มทะเบียน และสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน (รถบรรทุก รถยนต์นั่ง ส่วนบุคคล รถยนต์เพื่อการพาณิชย์) ภายใต้แบรนด์ “รถทำเงิน”, สินเชื่อสวัสดิการพนักงาน (Debt Consolidation) และสินเชื่อผ่อนทอง (Click2Gold)

*หุ้น Growth Stock

บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุถึง SINGER ว่า คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของบริษัท Upside Risk มีให้เห็น ทั้งในระยะสั้นและยาว ทั้งนี้จะเห็นโอกาสที่ตลาดจะเกิด Upgrade โมเมนตัม จาก 1.ผลประกอบการระยะสั้นที่ดีกว่าคาด ทั้งนี้รายได้ภาคเกษตรแข็งแกร่งทั้งจากปริมาณขายและราคาสินค้าที่ปรับขึ้นหนุนกำลังซื้อ, ยอดขายสินค้าหมวดใหม่ เช่น IoTs,Solarrooftop ครัวเรือน (ร่วมกับ GUNKUL) และสินค้ากลุ่มกัญชง, การขาย-สินเชื่อใหม่ ผ่านช่องทาง JAYDEE,Line@

2.ระยะยาว การปลดล็อกมูลค่า SG Capital (SGC) บริษัทย่อยที่ถือพอร์ตสินเชื่อราว 1.3 หมื่นล้านบาทในช่วงกลางปีนี้ ประเมินการทำ IPO ในไตรมาส 3/2565 จะทำให้ D/E โดยรวมลดต่ำกว่า 0.5 เท่า สามารถขยายพอร์ตสินเชื่อไปถึงระดับ 5 หมื่นล้านบาทใน 5 ปี อย่างไม่มีข้อจำกัดอีกต่อไปและเข้าถึงแหล่งทุนที่มีต้นทุนต่ำกว่าปัจจุบัน 5.5-6%ราว 150-200bps

ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566เท่ากับ 1,228/1,834ล้านบาท +75/+49%YoY โดดเด่นกว่ากลุ่มจำนำทะเบียนที่ +15-20%YoY ปรับราคาเหมาะสมปี 2565 ขึ้น 11% เป็น 60.50 บาท อิง P/E จากเดิม 33 เท่า เป็น 40 เท่า ณ ค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี +2SD ส่วนหนึ่งเกิดจาก Dilution Effect จากการเพิ่มทุนในปลายปีก่อน แต่สามารถชดเชยด้วยการเติบโตใน 12 เดือนข้างหน้า ทำให้ P/E ปี 2566 ลดลงเหลือ 27 เท่า เทียบเท่า PEG 1 เท่า เป็นระดับที่สมเหตุสมผลสำหรับ Growth Stock

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1