#BGC #ทันหุ้น – BGC ปรับเพิ่มเป้ายอดขายโต 12% จากการปรับขึ้นราคาขายตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และคุมต้นทุนได้ดี ส่วนดีล M&A คาดว่าปีนี้จะได้ข้อสรุป 1 ดีล ตั้งเป้าลดคาร์บอนปีละ 733,443 ตันต่อปี วางเป้าหมายให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 ด้านโบรกปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565-2567 ขึ้น มองผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้วเคาะพื้นฐาน 12.30 บาท

นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC เปิดเผยว่า สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2565 บริษัทได้ปรับเพิ่มเป้ายอดขายในระดับเดียวกับครึ่งปีแรกที่เติบโตราว 12% จากเดิมตั้งไว้ 5-6% จากการส่งออกโดยเฉพาะตลาดสหรัฐ ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และมีมาร์จิ้นสูง มีกำลังซื้อมาก โดยในไตรมาส 2/2565 การส่งออกขวดแก้วเติบโต 12% จากช่วงเดียวกันปีก่อน นอกจากนี้ยังมีปัจจัยเกี่ยวกับการปรับราคาขายสินค้าเพิ่มขึ้นตามต้นทุนด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น

*ปรับราคาขาย-คุมต้นทุน

ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าเพื่อปรับราคาขึ้น ซึ่งได้ทยอยปรับขึ้นราคาสินค้ามาตั้งแต่ต้นปี 2565 จนถึงเดือนกรกฎาคมแล้วกว่า 80% ของพอร์ตรายได้ และหากต่อไปต้นทุนลดลง ทางบริษัทก็จะพร้อมที่จะปรับลดราคาสินค้าลง ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า

ขณะเดียวกันบริษัทก็มีการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น โดยการผลิตสินค้าเสียน้อยลง แต่จำนวนการผลิตสินค้าเพิ่มขึ้น และจะรักษาอัตรากำไรที่ไม่แตกต่างจากปีก่อนได้ โดยในครึ่งแรกปีนี้ถือได้ว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ จึงเชื่อว่าผลดำเนินงานในปีนี้ของบริษัทจะดีกว่าช่วงปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19

ทั้งนี้ในไตรมาส 2/2565 มียอดขายจากธุรกิจขวดแก้ว เติบโต 11% YoY ในส่วนของธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ เติบโต 52% จากฐานที่ต่ำในปีก่อน ขณะที่ประเมินแนวโน้มอุตสาหกรรมโดยรวมในระยะยาวจะเติบโตประมาณ 5% ต่อปี ขณะที่บริษัทได้วางเป้าหมายระยะยาวสำหรับธุรกิจแก้วจะเติบโต 5-10% ต่อปี และธุรกิจที่ไม่ใช่ขวดแก้ว จะเติบโต 10-20% ต่อปี

*ดีลซื้อกิจการ

สำหรับกลยุทธ์ 5 ปีข้างหน้า เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน จะมี 5 ส่วน ประกอบด้วย 1.สร้างธุรกิจให้มีแข็งแรงและมั่นคง 2.การกระจายความเสี่ยงไปสู่ธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเกื้อหนุนธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ โดยการซื้อกิจการหรือร่วมทุน โดยปัจจุบันนี้มีการเจรจาอยู่และคาดว่าจะได้ข้อสรุป 1 ดีลภายในปีนี้ 3.คือการผลิตให้มีประสิทธิภาพ 4.ด้าน ESG คือการควบคุมการ ปล่อยคาร์บอน ซึ่งมองว่าเป็นสิ่งสำคัญในอนาคต รองรับในการทำธุรกิจกับลูกค้า และ5.การพัฒนาบุคลากร

ทั้งนี้ในส่วนของการควบคุมการปล่อยคาร์บอนนั้น บริษัทได้วางเป้าหมายที่จะลดคาร์บอนให้เป็นศูนย์ภายในปี 2593 จากปัจจุบันบริษัทปล่อยคาร์บอนปีละ 733,443 ตัน แบ่งเป็นจากธุรกิจแก้วจำนวน 719,483 ตัน หรือ 98% และธุรกิจด้านบรรจุภัณฑ์ จำนวน 13,960 ตัน หรือ 2% ซึ่งจะดำเนินการ 3 ช่วง ได้แก่ในระยะสั้นปี 2564-2568 จะการปล่อยก๊าซคาร์บอนลง 10% ในระยะกลางช่วงปี 2569-2573 จะลดลง 30% และในระยะยาวช่วงปี 2574-2593 จะลดลงให้เป็นศูนย์ โดยแนวทางจะดำเนินการโดยการพัฒนาการผลิตสินค้าให้มีประสิทธิภาพ, หันไปใช้พลังงานสะอาด และนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้

*โบรกอัพกำไรเพิ่ม

บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) แนะนำซื้อหุ้น BGC โดยให้ราคาเป้าหมายที่ 12.30บาท โดยได้ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2565 ขึ้น 5% จากการรวมกำไรพิเศษจากการขายเงินลงทุนในไตรมาสแรกปีนี้ไว้ในประมาณการ และได้ปรับเพิ่มกำไรในปี 2566 และ 2567ขึ้น 2% และ 6% ตามลำดับ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นตามการปรับราคาขาย และมองว่าหุ้น BGC เป็นอีกหุ้นใน Theme Anti-Commodity ที่น่าสนใจ นอกจากนี้บริษัทมีประกาศจ่ายปันผลระหว่างกาลงวดไตรมาส 2/2565 ที่ 0.1 บาทต่อหุ้น คิดเป็น คิดเป็น Div Yield 1%

อย่างไรก็ดี แม้ในปีนี้จะเป็นปีที่ท้าทายของ BGC จากปัญหาต้นทุนพลังงานวัตถุดิบที่ปรับตัวสูงขึ้นมาก แต่ช่วงที่ผ่านมาบริษัทเร่งปรับประสิทธิภาพในการผลิต และลดค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังมีการทยอยปรับขึ้นราคาสินค้ากับลูกค้าไปเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะเริ่มเห็นผลที่ชัดขึ้นในไตรมาส 3/2565และคาดว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/2565ไปแล้วจากต้นทุนผ่านจุดพีคทั้งราคาก๊าซธรรมชาติ และต้นทุนวัตถุดิบอื่นๆ และยอดขายที่ฟื้นตัว

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1