> SET > BGC

21 มีนาคม 2024 เวลา 15:51 น.

BGCคาดPrimeโตเท่าตัว รับผลดีดบ.ลง-ต้นทุนลด

#BGC #ทันหุ้น-BGC คาด Prime ปีนี้เติบโตต่อเนื่อง หลังขยายกำลังผลิต ขณะที่ปีนี้รับผลดีแนวโน้มดอกเบี้ยลงทำให้ต้นทุนการเงินลด รวมถึงต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบสามารถบริหารจัดการได้ แย้มไตรมาสแรกปีนี้ดีกว่าเป้า เดินหน้าผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ล่าสุดเข้าร่วมทุนธุรกิจกระป๋องอลูมิเนียม


นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด(มหาชน) หรือ BGC เปิดเผยว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปี 2567ยังเป้าหมายที่จะเป็น Total Packaging Solutions หรือผู้ให้บริการบรรจุภัณฑ์ครบวงจร เพื่อที่จะเป็นการกระจายความเสี่ยง ไม่ใช่แต่มุ่งธุรกิจด้านแก้วอย่างเดียว ยังมีผลิตภัณฑ์อย่างอื่นด้วยทั้งกล่องกระดาษ พลาสติกอ่อน


และล่าสุดได้มีการไปร่วมทุนกับบริษัท โตโยไซกัน จำกัดของญี่ปุ่น ในการเข้าไปร่วมถือหุ้นในบริษัท บางกอกแคน แมนูแฟคเจอร์ริ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ผลิตกระป๋องอลูมิเนียม นอกจากนี้กลยุทธ์ดังกล่าวยังช่วยทำให้บริษัทมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้กับลูกค้า ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนยอดขายจากธุรกิจแก้ว 85%และอีก 15%มาจากผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์อื่นๆ แต่ในอนาคต วางเป้าหมายสัดส่วนจากธุรกิจแก้ว 60% และบรรจุภัณฑ์อื่นๆ 40%


*Prime โตเท่าตัว

ทั้งนี้ในปีนี้คาดว่าบริษัท ไพรส์ม แพ็กเกจจิ้ง จำกัดหรือ Prime ที่บริษัทเข้าไปซื้อเมื่อปีที่แล้ว และมีการเติบโต ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทได้มีการขยายกำลังการผลิตใน Prime ดังนั้นจึงคาดว่าในปีนี้จะมีการเติบโตแบบเท่าตัว ทั้งนี้Prime สามารถสร้างรายได้เป็นไปตามคาดที่ 100 ล้านบาทต่อไตรมาส ขณะที่ส่วนต่อขยายหรือ Prime B ได้เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วช่วงไตรมาส 4/2566 และคาดว่าปีนี้จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายให้กับกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่นอย่างต่อเนื่อง


นอกจากนี้มองว่าในปีนี้บริษัทจะได้รับผลดีจากแนวโน้มดอกเบี้ยที่จะปรับลง จะทำให้ต้นทุนการเงินของบริษัทลดลงด้วย เพราะในปีที่แล้วบริษัทมีการกู้เงิน เพื่อมาขยายกำลังการผลิต รวมถึงการเข้าซื้อธุรกิจจึงทำให้มีภาระดอกเบี้ยในส่วนนี้รวมถึงในปีนี้น่าจะได้รับผลดีจากต้นทุนพลังงานทั้งราคาก๊าซ ค่าไฟฟ้าที่ไม่สูง รวมถึงเม็ดพลาสติก และเศษแก้วที่สามารถบริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตามมีปัจจัยที่ท้าทายในแง่ของเศรษฐกิจโดยรวมที่เติบโตประมาณ 2% กว่าจะทำให้กำลังซื้อชะลอตัวได้ ซึ่งในส่วนนี้จะมีผลต่อยอดขายได้


*ปีแห่งการเก็บเกี่ยว

“ในปีนี้ผมมองว่าการซื้อกิจการน้อยลง แต่จะเป็นปีแห่งการเก็บเกี่ยวการลงทุน จากที่เราเข้าไปลงทุน”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BGC กล่าว


สำหรับงบลงทุนปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 300-400 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในเครื่องจักร ซึ่งจะทำให้มีประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้น ส่วนแนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 1/2567ในช่วง 2เดือนกว่าที่ผ่านมาพบว่ามียอดขายออกมาดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งนี้หุ้น BGC สามารถให้ผลตอบแทนในแง่ของเงินปันผลได้ดีกว่านโยบายทีกำหนด โดยล่าสุดจ่ายในระดับประมาณ 60% ขณะที่บริษัทกำหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษี


สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 4/66 มีรายได้จากการขาย 4,263 ล้านบาท เติบโต 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกำไรสุทธิ 101 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 85 ล้านบาท โดยการวางกลยุทธ์ผลักดันการเติบโตส่งผลให้ยอดขายจากธุรกิจบรรจุภัณฑ์แก้วในกลุ่มเบียร์ โซดาและน้ำดื่ม และเครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drink) เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลเฉลิมฉลอง 


รวมทั้งกลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่นมียอดขายเพิ่มขึ้นจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและม้วนฟิล์ม (Flexible Plastic) จากการเข้าถือหุ้นใน Prime ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนและม้วนฟิล์มในไตรมาส 2 ของปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจบรรจุภัณฑ์อื่นเติบโตมากถึง 31% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 4 ของปีก่อนหน้า


ขณะที่ภาพรวมทั้งปี 66 มีรายได้จากการขายทั้งสิ้น 15,005 ล้านบาท เติบโต 6% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 14,192 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 324 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 507ล้านบาท 


เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก และอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงส่งผลต่อภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ย รวมถึงในปี 2565 มีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายกิจการกลุ่มพลังงาน จำนวน 80 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X