#JMT #ทันหุ้น - JMT ยอดเก็บหนี้ทะลัก หนุนโค้ง3 สวย พร้อมคอนเฟิร์มปี 65 ผลงานโต 45% จากปีก่อน อานิสงส์พอร์ตบริหารNPLพุ่ง-ดีลร่วมทุนหนุน แถมอัดงบสอยหนี้เสียเพิ่มดันพอร์ตในมือโตมาที่ราว 2.45 แสนล้านบาท ส่วนบริษัทร่วมทุน JK คาดเปิดรับทรัพย์เต็มพิกัดช่วง Q4 นี้

นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT ประเมินทิศทางผลงานในไตรมาส 3/2565 ของบริษัทว่า จะเติบอย่างชัดเจนจากช่วงไตรมาส 2/2565 เนื่องจากยอดจัดเก็บหนี้เสีย (NPL) มีจำนวนเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังอาจจะมีการรับรู้ NPL ที่ประมูลเข้ามาใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้เพิ่มเติม

ทั้งนี้ จากการสำรวจข้อมูลล่าสุดของ JMT มีพอร์ตบริหารหนี้เสียในมือราว 2.45 แสนล้านบาท โดยเป็นหนี้เสียจากทั้งธนาคารต่างๆ และที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (Non-Bank) น่าจะสามารถจัดเก็บและทยอยรับรู้รายได้ในส่วนดังกล่าวต่อเนื่องไปอีกมากกว่า 10 ปีนับจากนี้ ซึ่งเป็นกองหนี้ที่ตัดต้นทุนหมดแล้ว (Fully amortized)อยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท รวมทั้งยังมีแนวทางเข้าประมูล NPL ใหม่ในช่วงที่เหลือปีนี้ต่อเนื่อง เพื่อเสริมรายรับในอนาคต

“ในช่วงครึ่งปีแรกทาง JMT ใช้งบลงทุนซื้อหนี้ด้อยคุณภาพทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกันไปแล้วจำนวน 1.12 พันล้านบาท จากเป้าหมายปีนี้วางงบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท ดังนั้นในช่วงครึ่งหลังปีนี้คงจะมีแนวทางซื้อหนี้เสียให้มากขึ้น เพื่อสนับสนุนพอร์ตของธุรกิจให้ขยายตัว”

ปีนี้ผลงานตามฝัน

อย่างไรก็ดี ในปี 2565 บริษัทคาดผลประกอบการเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้เติบโต 45% เมื่อเทียบกับปี2564 ที่มีกำไรราว 1.4 พันล้านบาท ผลมาจากทิศทางการจัดเก็บหนี้เสียขยายตัวมากขึ้น ตลอดจนธุรกิจยังสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ

ส่วนเรื่องการร่วมทุนกับทางบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด (บริษัทในเครือธนาคารกสิกรไทย) ในการจัดตั้งบริษัท บริหารสินทรัพย์ เจเค จำกัด (JK AMC) ขึ้นมา เพื่อเป็นอีกทางเลือกในการบริหารหนี้เสียของธนาคารเพิ่มเติมจากการบริหารจัดการเองภายใน หรือการเปิดประมูล เพื่อขยายช่องทางสร้างรายรับเพิ่มเติมนั้น บริษัทร่วมทุนดังกล่าว JMT ถือหุ้นในสัดส่วนราว 50% และที่เหลือถือหุ้นโดยพาร์ทเนอร์

โดยยธนาคารกสิกรไทยมีแผนโอนขายหนี้ NPL ให้ JK AMC จำนวน 50,000 ล้านบาท ภายในปี 2565 และ JMT จะทำหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการบริหารหนี้เสียดังกล่าว โดยประเมินการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทข้างต้นเข้ามาเต็มที่ได้ช่วงไตรมาส 4/2565 ซึ่งเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนภาพรวมธุรกิจให้เติบโตได้ตามที่วางไว้

กำไรเด่นเป้า92บ.

ด้านนักวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น JMT ให้ราคาเป้าหมาย 92.00 บาท เนื่องจากบริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาขยายธุรกิจบริหารสินทรัพย์AMC ไปยังประเทศในอาเซียน โดยบริษัทจะเข้าหุ้นกับผู้ประกอบการในประเทศดังกล่าว คาดจะเห็นความชัดเจนยิ่งขึ้นในไตรมาส4/2565

สำหรับธุรกิจในปัจจุบัน JMT รายงาน การเรียกเก็บเงินสด (CC) ทรงตัวในไตรมาส 3-4 (แต่ยังเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน) ซึ่งในช่วงไตรมาส 3/2565 ผู้บริหารคาดว่าธนาคารจะขายหนี้ด้อยคุณภาพ(NPL) เพิ่มขึ้น อีกทั้งในไตรมาส4/2565 บริษัทจะเร่งการลงทุน ซึ่งอาจทำให้OPEX เพิ่มขึ้น ผู้บริหารเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวน่าจะช่วยหนุนแนวโน้มการเติบโตของบริษัทในอีก2 ปีข้างหน้า นอกจากนี้JMT คาดว่าJK จะให้ส่วนแบ่งกำไรสุทธิในไตรมาส4/2565 เข้ามาเพิ่มเติม ทำให้ฝ่ายวิเคราะห์จึงมองเป็นโอกาสในการเข้าลงทุน