> Trendtalk > FPT

29 กันยายน 2022 เวลา 06:20 น.

FPT

#ทันหุ้น - ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1595-1600 หลังจากปรับตัวลดลงเกิดสัญญาณขายทางเทคนิคไปเคลื่อนไหวต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันที่ 1635 และหลุดแนวรับที่ 1615 ลงไป ทำให้แนวโน้มหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1570 และ 1555 โดยมีแนวต้านที่ 1625 และ 1635


สำหรับหุ้นที่น่าสนใจวันนี้ คือ FPT หรือ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้พัฒนาและบริหารจัดการกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบครบวงจร ครอบคลุมอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ที่อยู่อาศัย พาณิชยกรรม และฮอสพิทาลิตี้ รวมถึงลงทุนและได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของกองทรัสต์ฯ (FTREIT และ GVREIT) และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (GOLDPF)


ผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 (ปิดงบปีวันที่ 30 กันยายน) ปี 65 มีกำไรสุทธิ 680 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.29 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 มีกำไรสุทธิ 463 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.20 บาท


ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิ 1,743 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.75 บาท กำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 มีกำไรสุทธิ 1,428 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.62 บาท


นายธนพล ศิริธนชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (Country Chief Executive Officer) บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า "ผลการดำเนินงานรอบ 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน 2565) เป็นที่น่าพึงพอใจและเป็นตามที่บริษัทฯวางแผนไว้ โดยไตรมาสที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่ FPT ได้เริ่มเก็บเกี่ยวผลสำเร็จจากความพยายามของบริษัทฯในการปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจผ่านแผนกลยุทธ์การรุกตลาดและการจับกลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่ง FPT จะยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการที่ทันสมัย เพื่อส่งมอบประสบการณ์และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา พร้อมกับสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ 'เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย' ให้เป็นแบรนด์ในใจลูกค้า"


ในภาพรวมของรอบปฎิทินไตรมาสที่สอง ปี 2565 บริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้ในมูลค่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนกลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (High Net Worth Individuals) และ กลุ่มสหกรณ์อย่างล้นหลาม สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของแพลตฟอร์มอสังหาฯครบวงจร และผลการดำเนินงานที่ผ่านมาของ FPT โดยบริษัทฯจะนำเงินที่ได้จากครั้งนี้ไปชำระคืนเงินกู้ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนขยายธุรกิจ และเงินทุนหมุนเวียนในปี 2565


จากการปรับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจเพื่อรุกสร้างรายได้ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้อย่างครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทฯ สามารถสร้างรายได้รวมในรอบ 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน 2565) ในจำนวน 4,374 ล้านบาท คิดเป็นกำไรสุทธิจำนวน 680 ล้านบาท และคิดเป็นรายได้รวมรอบ 6 เดือน (มกราคม-มิถุนายน 2565) 7,788 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 991 ล้านบาท สามารถรับรู้อัตรา


กำไรขั้นต้นในสัดส่วนที่สูงขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ด้วยการปรับกลยุทธ์ของกลุ่มธุรกิจอสังหาฯเพื่อที่อยู่อาศัย "เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม" ที่เดินหน้าพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวเพิ่มมากขึ้นเพื่อขยายเซ็กเมนต์ของกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูง โดยในครึ่งปีแรก(มกราคม-มิถุนายน) เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮม ได้ทยอยเปิดโครงการไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 6 โครงการที่อยู่ในช่วงราคาระหว่าง 2-35 ล้านบาท จากทั้งหมด 18 โครงการ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท สำหรับช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 (กรกฎาคม-ธันวาคม) บริษัทฯมีแผนเปิดโครงการบ้านเดี่ยว,บ้านแฝด, ทาวน์โฮม และโครงการต่างจังหวัด อีก 12 โครงการ


กลุ่มธุรกิจ "เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล" และ กลุ่มธุรกิจ "เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ คอมเมอร์เชียล" ที่สร้างกระแสรายได้ที่สม่ำเสมอให้แก่บริษัทฯ บันทึกรายได้ที่ 597 ล้านบาทในครึ่งปีแรก (มกราคม-มิถุนายน 2565) โดยธุรกิจโรงงานและคลังสินค้ายังมีอัตราการเช่ารวมสูงถึงร้อยละ 85.4 และยังได้รับอานิสงส์จากการชะลอการส่งออกที่ทำให้มีดีมานด์เช่าคลังสินค้าระยะสั้นเพิ่มเติม ซึ่งคาดการณ์ว่าจะส่งผลยาวถึงสิ้นปี 2565 สำหรับไตรมาสที่ผ่านมา เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล ได้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของโครงการคลังสินค้าสมัยใหม่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ที่มีโครงการตั้งอยู่ในเมืองคาราวัง เมืองมากัซซาร์ และ เมืองบันจาร์มาซิน ทำให้พอร์ตโฟลิโอในต่างประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 150,000 ตารางเมตร และภาพรวมพอร์ตฯอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมภายใต้การบริหารงานของบริษัทฯในปัจจุบันโตเพิ่มขึ้นเป็น 3.25 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ ยังมีการทยอยขายทรัพย์ให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม FTREIT ทำให้รอบไตรมาสล่าสุดมีรายได้พิเศษรวมเป็น 622 ล้านบาท


ด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมสามารถรักษาอัตราการเช่าได้ในระดับสูง โดยอาคารสำนักงานสามารถรักษาระดับผู้เช่าไว้ได้กว่า 90% โดยมุ่งเน้นการให้บริการแบบใหม่ Core & Flex ที่ผสานการให้บริการพื้นที่สำนักงานแบบมาตรฐานและแบบยืดหยุ่น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้เช่าได้อย่างครอบคลุม สำหรับ 2 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา บริษัทฯสร้างความคืบหน้าโครงการมิกซ์ยูส 'สีลมเอจ' ได้ตามเป้าหมาย โดยจะเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในเดือนกันยายน 2565 ซึ่งเป็นช่วงระยะเวลาเดียวกันกับที่จะส่งมอบโครงการศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ให้แก่ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ การเดินหน้าเปิดประเทศยังขับเคลื่อนให้ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจศูนย์การค้า 'สามย่านมิตรทาวน์' กลับมาคึกคัก และธุรกิจโรงแรมเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น


ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรมสมัยใหม่ชั้นนำของประเทศไทย ภายใต้กลุ่ม “FPT” เดินหน้าพัฒนาโครงการศูนย์คัดแยกสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้แก่ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในประเทศไทย


โดยคลังสินค้าแห่งนี้เป็นอาคารคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit Warehouse) มีขนาดพื้นที่บริหารจัดการสินค้ารวมมากถึง 73,000 ตร.ม. บนที่ดิน 74 ไร่ ตั้งอยู่ภายในโครงการเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โลจิสติกส์ พาร์ค (วังน้อย 2) อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่สำคัญต่อการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์ในภาคกลางและสำหรับใช้เป็นศูนย์กระจายสินค้าไปยังภูมิภาคอื่นทั่วประเทศ


อาคารศูนย์คัดแยกสินค้าแห่งใหม่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอันดับหนึ่งในประเทศไทยรายดังกล่าว และสะท้อนการเป็นผู้เล่นรายสำคัญในธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าอันดับต้นของประเทศ ทำให้ได้รับความไว้ในการพัฒนาอาคารคลังสินค้าแบบสร้างตามความต้องการ (Built-to-Suit Warehouse) ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดแข็งของเฟรเซอร์สฯ


ศูนย์คัดแยกสินค้าที่ทันสมัยและรองรับการทำงานตลอด 24 ชั่วโมงแห่งรองรับการทำงานของพนักงานกว่า 1,000 คน จะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายได้กล่าวให้สามารถกระจายพัสดุจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการประยุกต์ใช้ Know-how และเทคโนโลยีที่เหมาะสม พร้อมสนับสนุนการจัดส่งได้อย่างสะดวกด้วยจุดเด่นของศูนย์คัดแยกที่ตั้งอยู่ในวังน้อย อยุธยา ซึ่งเป็นโลจิสติกส์ฮับที่สำคัญ นับได้ว่าเป็นต้นแบบที่ช่วยยกระดับการดำเนินงานด้านโลจิสติกส์และภาคธุรกิจอีคอมเมิร์ซของประเทศไทย


ในส่วนของอาคารมิกซ์ยูสแห่งใหม่ในทำเลทอง ‘สีลมเอจ’ เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการเร็วๆนี้ โดยปัจจุบันมีการรับรู้รายได้จากผู้เช่าของสำนักงานออฟฟิศและพื้นที่รีเทลแล้ว

ราคาหุ้นเคลื่อนไหวออกด้านข้างที่บริเวณ 15.00 ถ้าสามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 16.00 โดยมีแนวรับสำคัญที่ 14.20 ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่ำกว่า 14.00 ลงไปทดสอบแนวรับถัดไป 12.20



รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X