จับตาธุรกิจ non-bank แข่งเดือด หลัง SCB ปรับโครงสร้างแยกธุรกิจบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล

#SCB #ทันหุ้น-โบรกเกอร์ประเมินธุรกิจ non-bank จะมีการแข่งขันที่มากขึ้น หลังจากที่ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ปรับโครงสร้าง โดยนำธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลหรือ CardX ไปอยู่ภายใต้บริษัทแม่ หรือ SCBX ภายใน 10 ธ.ค. 65 โดยจะมีการใช้ AI ขับเคลื่อนธุรกิจใหม่ๆ รวมถึงกระบวนการอนุมัติวงเงิน,โมเดลการบริหารจัดการความเสี่ยง และต้นทุน credit risk โบรกเกอร์มองว่าการดำเนินธุรกิจด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลของ SCB นั้นในปี 2566 อาจไม่หวือหวา แต่จะเร่งตัวขึ้นในปี 2567

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) มองว่าการปรับโครงสร้างธุรกิจของธนาคารไทยพาณิชย์ นั้น มองว่าจะทำให้การแข่งจันในธุรกิจกลุ่ม non-bank จะเข้มข้นมากขึ้น โดยคาดว่าการเติบโตในปี 2566 อาจจะไม่ได้หวือหวานัก แต่อาจจะเร่งตัวขึ้นในปี 2567 เพราะบริษัทโมเดลในการทำธุรกิจยังต้องการเวลาลองผิดลองถูก หากแผนธุรกิจดำเนินงานได้เต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนของระบบติดตามหนี้ จะส่งผลทำให้การแข่งขันในธุรกิจนี้เพิ่มมากขึ้น

ฝ่ายวิจัยเคจีไอฯ ยังมีมุมมองที่เป็นบวกกับ SCB ซึ่งได้รวมปัจจัยที่ว่าธุรกิจใหม่อาจจะไม่ได้สร้างรายได้และกำไรมากนักในระยะสั้น อย่างไรก็ตามการที่ SCB สร้างความแตกต่างจากการสร้างการเติบโตในกลุ่มสินเชื่อผู้บริโภค และได้เริ่มเห็นเป็นรูปเป็นร่างมากกว่าธนาคารอื่น ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงราคาเป้าหมายปี 2566 ไว้เท่าเดิมที่ 134 บาทต่อหุ้น พร้อมกับคำแนะนำซื้อ

ด้านบล.ทรีนีตี้ มองว่าการโอนธุรกิจของ CardX ภายใน ธ.ค.นี้ อาจทำให้ภาษีเงินได้ของ SCB (SCBX) ในไตรมาส 4/65 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการชำระบัญชี และในช่วงแรกต้นทุนทางการเงินอาจเพิ่มขึ้น หลังต้องแยก Funding กับธุรกิจธนาคาร ทำให้ไม่ได้รับอานิสงค์จากต้นทุนที่ต่ำของเงินฝากแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่แยกธุรกิจกับธนาคารมีผลดีคือ การปล่อยสินเชื่อให้แก่ลูกค้าบางกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ภายใต้ธุรกิจธนาคาร และจะมีกระบวนการภายในที่คล่องตัวมากขึ้น

ทั้งนี้ยังต้องจับตาดูการใช้ AI เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการลูกค้า ซึ่งหากทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จะทำให้ CardX เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่ช่วยส่งผลบวกต่อกำไรวมของ SCBX ค่อนข้างมาก

ฝ่ายวิจัยทรีนีตี้ ให้ราคาเป้าหมายหุ้น SCB ปี 2566 ที่ 144 บาทต่อหุ้น โดยยังไม่ได้ปรับประมาณการเพื่อสะท้อนเป้าหมายทางการเงินที่ธนาคารและบริษัทลูกอื่นๆ ของ SCB แถลงไว้ทั้งหมด เนื่องจากยังจับตาดูความคืบหน้าและผลการดำเนินงาน ภายหลังการปรับโครงสร้าง อย่างไรก็ตามภายใต้ประมาณการปัจจุบันยังมี Upside จึงยังคงคำแนะนำซื้อ

ราคาหุ้น SCB พักเที่ยงปิดที่ 105 บาท ลบ 0.50 บาท หรือ 0.47% มีมูลค่าการซื้อขาย 251.07 ล้านบาท