#CKP #ทันหุ้น – CKP ชูโรงไฟฟ้าไซยะบุรีน้ำงึม 2 เข้าไฮซีซันในไตรมาส 3/2565 หนุนปริมาณน้ำเหนือเขื่อนทรงตัวระดับสูง ส่งผลให้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้น ดันผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์กำไรงวดไตรมาส 3/2565 ทำนิวไฮที่ 1,342 ล้านบาท พร้อมปรับประมาณการกำไรขั้นต้นทั้งปี 2565 ขึ้นเป็น 2,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% แนะซื้อเป้า 6 บาท

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP เปิดเผยว่า บริษัทจะมุ่งเน้นการลงทุนไปที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน อาทิ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ, โรงไฟฟ้าพลังงานลม, และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นหลัก โดยมุ่งเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งขึ้นเป็นประมาณ 95%ในระยะ 5 ปีข้างหน้า จากปัจจุบัน 89%ซึ่งการลงทุนทั้งหมดยังคงอยู่ในภูมิภาคอาเซียนเป็นหลัก ซึ่งบริษัทมีความพร้อมทั้งการลงทุนเอง และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ที่ผ่านเกณฑ์ของบริษัทคือ 1.ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมกับผู้ถือหุ้น 2.เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด 100% 3.มีผู้รับซื้อที่มั่นคง และ 4.ในกรณีที่เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานชีวะมวล และหรือโรงไฟฟ้าพลังงานขยะต้องสามารถควบคุมต้นทุนเชื้อเพลิง หรือมีเชื้อเพลิงสำหรับการผลิต

ทั้งนี้บริษัทมีความสนใจเข้าร่วมเสนอขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนทั้งแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน, และพลังงานลมโดยไม่ต้องประมูล
แข่ง
ราคา
พร้อมกำหนดอัตราไฟฟ้าสีเขียว (Green Tariff) สำหรับภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่มีความต้องการที่จะใช้ไฟฟ้าสีเขียวเพื่อประโยชน์ในการส่งออกสินค้าที่ต้องพิสูจน์ Carbon Tracking ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) เตรียมเปิดให้ภาคเอกชนยื่นคำเสนอขายไฟฟ้าช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2565 โดยคาดหวังว่าจะผ่านคุณสมบัติราว 2-3 โครงการ โดยเฉพาะกลุ่มของพลังงานแสงอาทิตย์ที่บริษัทมี Know Howมากว่า 10 ปีทั้งเทคโนโลยี Solar Farm และ Solar Rooftop

*ผลงานครึ่งหลังเด่น

สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงานครึ่งหลังปี 2565คาดว่าจะเติบโตกว่าครึ่งปีแรก หลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำเพื่อใช้ผลิตไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น หนุนจากสถานการณน้ำเหนือเขื่อนไซยะบุรี และในเขื่อนน้ำงึม 2 ในช่วงไตรมาส 3/2565 ที่ทรงตัวระดับสูงได้ต่อเนื่อง โดยงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ที่ 1,286,01 Mega watt hour (MWh)  ลดลง 12.96% YoY,

ขณะที่โรงไฟฟ้าไซยะบุรีสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ที่ 6,290,824 MWh เพิ่มขึ้น 11.11% YoY, ส่วนโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่นผลิตกระแสไฟฟ้าได้ถึง 1,163,676 MWh เพิ่มขึ้น 0.58% YoY, และโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ บางเขนชัย (BKC) สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ที่ 17,384 MWh ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่ค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) ที่ปรับขึ้นในงวดเดือนกันยายน– ธันวาคม 2565 คาดจะเป็นส่วนช่วยให้อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) สำหรับงวดไตรมาส 4/2565 ปรับตัวดีขึ้นบนสถานการณ์ราคาก๊าซที่ทรงตัวระดับสูงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทยังคงบริหารต้นทุนทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เนื่องจากบริษัทสามารถออกหุ้นกู้ฟิกซ์อัตราดอกเบี้ยไว้ได้ถึงประมาณ 80% อีกทั้งยังมีแผนทยอยออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม (Green Bond) เพื่อบริหารจัดการต้นทุนอัตราดอกเบี้ยจ่ายสำหรับเงินกู้ในสัดส่วน 20% ที่เหลือในอนาคต

*ลุ้นกำไร Q3/65 นิวไฮ

บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง CKP ว่า แม้ต้นทุนก๊าซธรรมชาติยังสูง แต่คาดกำไรปกติไตรมาส 3/2565 ของ CKP ที่ 1,342 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดใหม่ของปี 2565 (New High) หนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำในสปป.ลาวและปริมาณน้ำที่สูงขึ้น YoY ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าไซยะบุรียังมีแนวโน้มทรงตัวระดับสูงได้จากการพร่องน้ำของเขื่อนในจีน และการเกิดปรากฏการณ์ลานีญา หนุนให้พิจารณาปรับประมาณการกำไรปกติทั้งปี 2565 ขึ้นเป็น 2,409 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% YoY

ทั้งนี้ CKP เตรียมซื้อหุ้นใน LPCL (โรงไฟฟ้าหลวงพระบาง) เพิ่ม 8% (ถือรวม 50%) และซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ LPCL ตามสัดส่วนการถือหุ้น วงเงินรวม 2.2 หมื่นล้านบาท รวมถึงทำสัญญาให้ความช่วยทางการเงินกับบริษัทที่เกี่ยวข้อง โดยธุรกรรมที่จะเกิดขึ้นจำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 ก่อนดำเนินการ (คะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4) ซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนผลการดำเนินงานของบริษัทในอนาคต จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 6 บาท

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1