> กองทุน > MFC

25 พฤศจิกายน 2022 เวลา 19:01 น.

MFCปล่อยตัวM-ASIA เอเชียดาวรุ่งเศรษฐกิจ

#MFC #ทันหุ้น MFC ยังเชื่อว่าเอเชียเป็นดาวรุ่งทางเศรษฐกิจ ด้วยความแตกต่าง ที่มีทั้งกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ทำให้หาโอกาสในการลงทุนและสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ที่สร้างการเติบโตได้สูงจากจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น ชนชั้นกลางที่มากขึ้น ขับเคลื่อนการเติบโตได้ในระยะยาว พร้อมเปิดตัว กองทุน M-ASIA เสนอขาย ตั้งแต่ 25 - 30พฤศจิกายน นี้


นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ MFC กล่าวถึง มุมมองเรื่องทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชียว่า การเติบโตและรายได้เศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชีย อาทิ ประเทศอินเดีย จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้อยู่ในอัตราสูงอย่างมีนัยสำคัญ


รวมไปถึงปัจจัยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจในภาคการท่องเที่ยวมีหุ้นเติบโต (Growth Stock) ที่ยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว (Long Term Trend) จากโอกาสเติบโตจากการบริโภคของชนชั้นกลางอย่างต่อเนื่อง ในมุมของ Valuation ราคาของหุ้นเอเชียยังถูก โดยมีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) ที่ 11.3 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยที่ 14.2 เท่า ดังนั้น ตลาดหุ้นเอเชียจึงน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับการลงทุน


โดย Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียยกเว้นญี่ปุ่น (ดัชนี MSCI Asia Ex. Japan) มีการเติบโตของกำไรต่อหุ้น (EPS Growth) สูงกว่าภูมิภาคอื่น ๆ ในปี 2566 และ 2567


เอเชียขาขึ้นยาวๆ

ทั้งนี้สภาพเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศเอเชียมีความแตกต่างกันในหลายพื้นที่ ซึ่งมีทั้ง กลุ่มประเทศที่อยู่ในช่วงของความมั่งคั่งมีเศรษฐกิจขั้นสูงที่เติบโตเต็มที่ อย่าง สิงคโปร์ ฮ่องกง และเกาหลีใต้  ขณะที่ จีน เป็นประเทศกำลังพัฒนาซึ่งมีกำลังบริโภค และสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงของเอเชีย หรือตลาดเกิดใหม่ อย่าง อินเดีย และประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็ว อย่าง เวียดนาม ไทย และอินโดนีเซีย


ซึ่งจากความแตกต่างในภูมิภาคแห่งนี้ MFC มองว่า ตลาดหุ้นเอเชียสามารถหาผลตอบแทนส่วนเกิน (alpha) ได้ง่ายกว่าตลาดหุ้นที่พัฒนาแล้ว อย่างไรก็ตาม MFC เห็นว่า ระยะยาวตลาดหุ้นเอเชียมีโอกาสที่จะเคลื่อนไหวออกข้างในกรอบใหญ่ และยังคงมีความผันผวนสูงในปัจจุบัน ขณะที่การจับจังหวะในจุดที่ตลาดลงไปทำจุดต่ำสุดก็ไม่ใช่เรื่องง่าย นักลงทุนจำเป็นต้องมุ่งเน้นไปที่การจัดการเชิงรุกและการเลือกหุ้นแบบ “bottom -up” เพื่อให้มีโอกาสที่ดีที่สุดในการสร้างผลตอบแทนเหนือตลาด ซึ่งการคัดเลือกหุ้นรายตัวสามารถหาผลตอบแทนส่วนเกิน (alpha) ได้ดีกว่าการคัดเลือกประเทศ หรือภูมิภาคที่จะลงทุน


นายธนโชติ กล่าวต่อไปว่า เอเชียมีแรงหนุนจากชนชั้นกลางที่เพิ่มขึ้น มีกำลังซื้อหรือกำลังบริโภคที่สูง โดยเฉพาะในแถบอาเซียน อย่างเวียดนามที่ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในวัยแรงงาน ขณะที่เศรษฐกิจขยายตัว ในส่วนของเมืองก็มีการขยายตัวด้วย จากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่จะต้องเกิดขึ้นต่อเนื่องไปอีกในระยะยาว ซึ่งทำให้เอเชียกลายเป็นจุดโฟกัสที่สำคัญของการลงทุน


M-ASIA คัดหุ้นรายตัว

และในจุดนี้เอง ทำให้ MFC มีมุมมองบวกต่อการลงทุนในเอเชีย พร้อมส่งกองทุนรวมตราสารทุนต่างประเทศ กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี เอเชีย อัลฟ่า หรือ M-ASIA ลงสนามต้อนรับสิ้นปี เพื่อเพิ่มโอกาสและเน้นสร้างผลตอบแทนในระยะยาวสำหรับตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค เปิดให้จองซื้อได้ระหว่างวันที่ 25 - 30 พฤศจิกายน 2565 นี้


กองทุนเปิด M-ASIA จะลงทุนในกองทุน Fullerton Lux Fund - Asia Absolute Alpha ที่บริหารจัดการโดย Fullerton Fund Management Company Ltd. ซึ่งเน้นลงทุนในตราสารทุนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยไม่รวมประเทศญี่ปุ่น หรือลงทุนในตราสารทุนของบริษัทที่มีรายได้จากธุรกิจในภูมิภาคนี้เป็นหลัก กองทุนหลักจะคัดเลือกหุ้นในเอเชียที่มีแนวโน้มการเติบโตในอนาคตประมาณ 30 - 40หุ้นเพื่อลงทุน


โดยคาดว่าผลตอบแทนเป้าหมาย 8-10% ต่อปี ในรอบ Market cycle ประมาณ 3 ปี เน้นป้องกันความเสี่ยงเมื่อหุ้ปรับตัวลดลง รวมถึงการถือครองเงินสดเพิ่มขึ้น เพื่อรอโอกาส หรือจังหวะที่เหมาะสมในการกลับเข้าไปลงทุนอีกครั้ง

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X