รัก "BAM" ต้องรอ ?

#ทันหุ้น - บล.บัวหลวง ส่องหุ้น BAM เชื่อว่าปัจจุบันราคาหุ้นมีความเสี่ยงขาลงที่จำกัด แต่แนะนำรอดูความชัดเจนของผลประกอบการที่แข็งแกร่งก่อน คงคำแนะนำ ถือ

เน้นช่องทางการขายใหม่ๆ

ฝ่ายวิจัยประมาณการการติดตามหนี้ปี 2566 อยู่ที่ 1.78 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 5%YoY การฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิดจะหนุนการชำระหนี้ และ BAM จะเน้นกลยุทธ์การปรับโครงสร้างหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เพื่อเพิ่มรายได้ดอกเบี้ยและเพิ่มยอดขายหนี้สิ้นที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ในส่วนของยอดขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ บริษัทจะเน้นทำโปรโมชั่นส่งเสริมการขายและช่องทางการขายใหม่ๆ โดยเฉพาะทางออนไลน์

ขณะนี้ AMC อยู่ระหว่างการเจรจาชำระหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ขนาดกลางและขนาดใหญ่หลายรายการ และการขายสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้จะขยายตัวในปลายปีนี้ ฝ่ายวิจัยคาดว่า BAM จะใช้ 9 พันล้านบาท เพื่อซื้อหนี้ใหม่ในปีนี้

นอกจากนี้ AMC อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อจัดตั้ง AMC ร่วมทุนกับธนาคารแห่งหนึ่ง แม้ว่า AMC ร่วมทุนจะไม่ได้ส่งผลกระทบเชิงบวกในทันทีต่อผลประกอบการ แต่มองว่า BAM จะมีอุปทานของหนี้เพิ่มขึ้นในระยะยาว หนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อาจใช้เวลานาน ในการชำระหนี้ โดยเฉพาะหนี้เสียที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลา 5-6 ปี เนื่องจากกระบวนการยึดสังหาริมทรัพย์ในศาลมักใช้เวลาหลายปี

การติดตามหนี้จะเพิ่มขึ้น Q2/66

คาดกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 700 ล้านบาท ลดลง 16% YoY (อัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง) แต่เพิ่มขึ้น 163% QoQ (ตามปัจจัยฤดูกาล) การติดตามหนี้ในไตรมาส 2/66 จะอยู่ที่ 4.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 38%QoQ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะหนุนการชำระหนี้ของหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ฝ่ายวิจัยคาดว่า BAM จะปิดดีลสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ขนาดกลาง (200 ล้านบาท) ในช่วงไตรมาส 2/66

AMC รายงานกำไรต่ำกว่าคาดไปหลายครั้งในปี 2565 ดังนั้นฝ่ายวิจัยจึงทำการวิเคราะห์ความอ่อนไหวต่อกำไรสุทธิในปี 2566 ของสมมุติฐานที่เป็น Bear และ Bull ขนาดการเก็บหนี้และอัตรากำไรจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อกำไรปี 2566 ภายใต้สมมุติฐาน ที่เป็น Bull กำไรสุทธิ ปี 2566 จะสูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิจัย 10% ซึ่งในกรณีนี้ ฝ่ายวิจัยปรับราคาเป้าหมายของ BAM ในปี 2566 ขึ้นจาก 13 บาทเป็น 14.60 บาท ภายใต้สมมุติฐานที่เป็น Bear กำไรปี 2566 จะต่ำกว่าที่คาด 10% และราคาเป้าหมายปี 2566 ของฝ่ายวิจัยจะลดลงเหลือ 11.40 บาท

มูลค่าหุ้น BAM

ราคาหุ้นของ BAM ปรับตัวลง 32% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันจากความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของกาไรที่ชะลอตัว PER ปี 2566 อยู่ที่ 12 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีอยู่ 0.8 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานนับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์) และ PBV ณ สิ้นปี 2566 อยู่ที่ 0.8 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 3 ปีอยู่ 2.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) อย่างไรก็ตาม PER ปี 2566 จะอยู่ที่ 14 เท่าภายใต้สมมุติฐานที่เป็น Bear