#BBIK #ทันหุ้น - BBIK ปรับเป้าหมายรายได้ปี 2566 ใหม่โตไม่ต่ำกว่า 120% ยืนเหนือ 1.2 พันล้านบาท พร้อมปั๊มรายได้ทะลุ 2 พันล้านบาท ภายในปี 2568 เล็งย้ายเข้า SET ฟากผู้บริหารวาง 4 กลยุทธ์สำคัญขับเคลื่อนธุรกิจ แย้มครึ่งปีหลังจ่อปิดดีลร่วมทุนพันธมิตรอย่างน้อย 1 ดีล

นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมในปี 2566 ใหม่ เป็นไม่น้อยกว่า 120% หรือแตะที่ระดับสูงกว่า 1,200 ล้านบาท จากเดิมที่วางไว้ไม่น้อยกว่า 100% และภายในปี 2568จะสร้างการเติบโตให้กับรายได้รวมยืนเหนือที่ระดับกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการทำสถิติสูงสุด (นิวไฮ) ต่อเนื่อง

** จ่อย้ายเข้า SET

นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนที่จะย้ายหุ้น BBIK จากตลาดเอ็ม เอ ไอ (mai) เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในลำดับถัดไป ภายในปี 2568 รวมถึงมีแนวความคิดที่จะนำเอาบริษัทย่อยของบริษัทเข้ามาทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ในรายละเอียดและระยะเวลาที่จะเห็นความชัดเจนยังไม่สามารถระบุได้ในขณะนี้

สำหรับกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจหลัก มี 4 ด้านหลัก ประกอบด้วย 1. การขยายธุรกิจต่างประเทศ ที่ในปัจจุบันบริษัทมีความสนใจที่จะเข้าไปจัดตั้งบริษัทย่อยในประเทศสหรัฐอเมริกา หลังศึกษาตลาดพบว่ามีดีมานด์ด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันยังคงเติบโตแข็งแกร่ง ผนวกกับกระแสการใช้ IT Outsourcing ที่กำลังมาแรง โดยมั่นใจว่าจากจุดแข็งและความเชี่ยวชาญทั้งด้านเทคโนโลยีและธุรกิจ จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้อย่างตรงจุด

2. แผนเปิดตัวบริการ Generative AI ที่สามารถใช้งานเชิงธุรกิจประยุกต์ได้ในทุกอุตสาหกรรม เพราะมองเห็นถึงโอกาสในการนำ AI มาใช้เพื่อต่อยอดและเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับลูกค้า อีกทั้งยังมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดเวลา และคาดกว่า Generative AI จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่ม Recurring Income และเสริมแกร่งด้านบริการให้กับบริษัท

** สร้างธุรกิจใหม่

3. ธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) ประตูสู่ความร่วมมือกับพันธมิตร สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ นอกจากแพลตฟอร์มด้านทรัพยากรมนุษย์อย่าง HumanOS ที่ได้รับการยอมรับจากบริษัทชั้นนำมากมายทั่วประเทศ บริษัทยังพัฒนา White Label Platform หรือแพลตฟอร์มธุรกิจพร้อมใช้งานที่สามารถเชื่อมต่อระบบหนึ่งกับอีกระบบหนึ่งได้อย่างสะดวก ซึ่งธุรกิจดิจิทัลแพลตฟอร์มนี้สามารถนำไปสู่ความร่วมมือใหม่ๆ กับพันธมิตร เพื่อสร้างโอกาสเติบโตร่วมกัน

และ 4. การควบรวมกิจการอย่างต่อเนื่อง (Mergers & Acquisitions - M&A) เสริมแกร่งบริการ End-to-End โดยบริษัทยังคงให้ความสำคัญในการสร้างความร่วมมือ และเข้าซื้อกิจการที่สามารถเสริมแกร่งให้กับบริการหลักและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับธุรกิจ จากแผนการขยายตัวผ่าน M&A ที่ผ่านมา ทำให้มีความพร้อมและศักยภาพที่จะสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ปัจจุบันบริษัทยังคงมีความสนใจและเปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับการลงทุนต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้รับความสนใจจากพันธมิตรทั้งในประเทศ และต่างประเทศเข้ามาขอเจรจาหลายราย แต่เบื้องต้นคาดว่าภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 จะได้ข้อสรุปดีลใหม่เพิ่มเติมอีก จำนวน 1 ราย ที่เป็นธุรกิจขนาดไม่ใหญ่มาก และมองกระแสเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานยังเพียงพอรองรับการลงทุนใหม่ดังกล่าวโดยไม่ต้องกู้ยืมสถาบันเพิ่มเติม

** ปิดดีลร่วมทุน

โดยการลงทุนใหม่ดังกล่าวมองว่าอาจเป็นการเข้าไปลงทุนแบบที่มีสิทธิ์สามารถลงทุนเพิ่มเติมได้ อย่างไรก็ดี จากความสนใจ BBIK ของคู่ค้าและพันธมิตรที่เข้ามาเจรจาอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดว่าในปี 2567อาจได้เห็นการปิดดีลในลักษณะของการร่วมทุนเกิดขึ้นอีกประมาณ 1-2 ดีล