#NER #ทันหุ้น – บิ๊ก NER “ชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” คาดจีนกระตุ้นยอดขายรถ เป็นบวกต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ พร้อมการเติบโตของตลาด EV เป็นปัจจัยหนุน มั่นใจทั้งปี 2566 เป้ายอดขายทะลุ 5 แสนตัน เล็งราคายางที่ 52 บาทต่อกิโลกรัม โบรกมองไตรมาส 2/2566 เป็นจุดต่ำสุด คงประมาณการไว้ที่ 1,611 ล้านบาท อัตราเงินปันผลดี ราคาเป้าหมาย 7.10 บาท

นายชูวิทย์  จึงธนสมบูรณ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า ล่าสุดที่ทางการจีนออก มาตรการเพื่อหวังกระตุ้นยอดขายรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในจีน โดยในส่วนของมาตรการกระตุ้นยอดขายยานยนต์ นั้นจะเป็นบวกต่อบริษัท เพราะปัจจุบันจีนมีการส่งเสริมเรื่องการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(EV Car) ต่อเนื่อง ซึ่งหากพิจารณาปัจจุบันจีนมีการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าราว 30% ของยานยนต์ทั้งหมด และมีค่ายรถยนต์จำนวนมากที่หันมาผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นจึงทำให้เป็นโอกาสของบริษัทโดยตรงในการจำหน่ายยางพาราไปยังจีน ปัจจุบันมีสัดส่วนลูกค้าจีนกว่า 60%

*ตลาดจีนหนุนโอกาสโต

“การกระตุ้นยอดขายรถยนต์ของจีน นับเป็นบวกต่อบริษัทโดยตรง เพราะมียอดขายจีนกว่า 60% จึงเป็นโอกาสเติบโตอย่างมาก อย่างยอดขายปี 2566 ที่บริษัทตั้งเพิ่มเป็นที่ 500,600 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 440,000 ตัน ซึ่งทั้งหมดมาจากยอดขายในจีน ส่วนราคายางพาราเป็นไปตามสภาวะตลาด ที่อาจจะไม่ได้สูงมากนัก โดยราคายางธรรมชาติปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาปัจจุบันที่ 52 บาทต่อกิโลกรัม” นายชูวิทย์ กล่าว

ส่วนผลประกอบการไตรมาส 2/2566 เตรียมประกาศผลประกอบการในวันที่ 11 สิงหาคม 2566 โดยผลประกอบการยังเติบโตได้ต่อเนื่อง จากไตรมาส 1/2566 อย่างไรก็ดี ปีนี้แม้ราคายางอาจจะไม่สูงมาก แต่ก็อยู่ในระดับที่ดี เดินหน้าในการลดต้นทุน รวมไปถึงการพิจารณาการทำโครงการโซลาร์จากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อรักษาผลการดำเนินงานของปีนี้

โบรกมอง Q2 จุดต่ำสุด

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง NER ว่าบริษัทมองว่าทิศทางราคาที่เกิดขึ้นใน ไตรมาส 2/2566 น่าจะเป็นช่วงที่ต่ำที่สุดของปี 2566 - 2567 แล้ว เนื่องจากปริมาณความต้องการยังสูงโดยเฉพาะการเติบโตของตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ปริมาณน้ำฝนที่น้อยกว่าปกติอาจทำให้เกิดภัยแล้ง ทำให้ลูกค้าเริ่มกังวลว่าจะไม่มีวัตถุดิบเพียงพอ ในการผลิตในช่วงที่เหลือของปี และปี 2567 ความต้องการเริ่มกลับมาสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ราคายางแท่ง กลับมาฟื้นตัวได้ในช่วง ครึ่งปีหลัง 2566

อย่างไรก็ตามราคาที่ลดลงใน ไตรมาส 2/2566 อาจกระทบราคาขายที่ส่งมอบใน ไตรมาส 3/2566 ลดลง ไตรมาสก่อนหน้า ได้แต่ด้วยปริมาณขายคาดว่าจะเร่งตัวขึ้น คาดว่ากำไรปกติจะยังทรงตัวที่ระดับ 400 ล้านบาท +/- ได้ และคาด ไตรมาส 4/2566 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีจาก ASP ที่คาดว่าจะสูงที่สุดของปีเช่นกัน สําหรับภัยแล้งที่เป็นความเสี่ยงในการขาดแคลนยางถ้วยซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางแท่งของ NER นั้น

.*ราคาเป้าหมาย 7.10 บาท

ทั้งนี้ ผู้บริหารมองว่ามีความเสี่ยงอยู่บ้างสำหรับปี 2567 แต่ปัจจุบันยังอยู่ในระดับควบคุมได้แต่ต้องติดตาม ใกล้ชิด ส่วนปี 2566 มีวัตถุดิบสำหรับเตรียมการผลิตไว้แล้วจึงไม่มีความเสี่ยง คงคำแนะนำ ซื้อ หากประมาณการกำไรปกติ ไตรมาส 2/2566 ใกล้เคียงคาดจะคิดเป็นสัดส่วน 43% ของประมาณการกำไรทั้งปีของ จึงยังคงประมาณการไว้ที่ 1,611 ล้านบาท (-12.7% YoY)

ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ PER66 ต่ำเพียง 5.5 เท่า สะท้อนปัจจัยลบด้านราคาขายและ GPM ที่ลดลงเป็นผลให้กำไรหดตัวในปี 2566 ไปแล้ว ขณะที่คาดเงินปันผลงวด ครึ่งปีแรก 2566 คาดที่ 0.06 บาท และครึ่งปีหลัง คาดอีก 0.29 บาท ให้ผลตอบแทน 1.3% และ 6.1% ตามลำดับ คงราคาเป้าหมาย 7.10 บาท และคงคำแนะนำ “ซื้อ”

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1