#ALT #ทันหุ้น - ALT เดินหน้าขยายโครงข่ายรับทรัพย์ รับลูกค้าใหม่ๆ หนุน โชว์งานในมือกว่า 4,275.58 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ปีนี้ ด้านธุรกิจรูฟท็อปไหลเข้าพอร์ตต่อเนื่อง ปัจจุบันตุน PPA กว่า 16.5 เมกะวัตต์ ล่าสุดบริษัทลูกชิงงาน E-Meter มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท พร้อมส่งมอบได้เร็วกว่าคาด
นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT ผู้ให้บริการเครือข่ายสื่อสารความเร็วสูง และบริการชุมสายอินเทอร์เน็ตทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทยังเดินหน้าขยายบริการโครงข่ายเคเบิลใยแก้วอย่างต่อเนื่อง โดยมีแผนพัฒนาโครงการสถานีเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ ในหาดใหญ่ เเละในแถบ EEC และวางระบบโครงข่ายสื่อสารใยแก้วนําแสงเพื่อเชื่อมต่อศูนย์ข้อมูล (Data Centers) และปัจจุบันมีลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นลูกค้าระยะยาว 5 - 20 ปี ซึ่งธุรกิจให้บริการโครงข่ายเป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) และเป็นรายได้หลักของบริษัท
ตุนงานในมือ 4.2 พันล.
ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ที่กว่า 4,275.58 ล้านบาท จากโครงการในส่วนต่างๆ อาทิ การให้บริการเช่า, การจัดหาไฟฟ้า ซึ่งน่าจะสามารถรับรู้รายได้ในปี 2566 ราว 670 ล้านบาท แบ่งออกเป็นไตรมาสที่ 3/2566 จำนวน 360 ล้านบาท เเละไตรมาสที่ 4/2566 จำนวน 310 ล้านบาท รวมทั้งยังมีแนวทางเข้าประมูลงานและขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะในส่วนของโครงการรูฟท็อป หวังช่วยเสริมการเติบโตของธุรกิจในอนาคต ขณะปัจจุบันที่บริษัทมีเงินสดในมือ 222.36 ล้านบาท
ทางด้านธุรกิจให้บริการจัดหาไฟฟ้าในลักษณะโครงการระบบผลิตไฟฟ้าจากแผงเซลล์บนหลังคา (รูฟท็อป) ในสัญญาแบบระหว่างเฉพาะเจาะจงระหว่างองค์กร (ไพร์เวทพีพีเอ) นั้นปัจจุบันมีกำลังผลิตที่ลูกค้าลงนามเซ็นสัญญาแล้วประมาณ 16.5 เมกะวัตต์ (MW) ระยะเวลาโครงการประมาณ 10-20 ปีหรือโดยเฉลี่ย 15 ปี มูลค่าโครงการประมาณ 930 ล้านบาท และรับรู้รายได้จำนวน 60 ล้านบาทต่อปี คาดว่าจะสามารถถึงจุดคุ้มทุนภายใน 8 ปี มีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่ 9%
บ.ลูกทยอยส่งมอบงาน
นอกจากนี้ บริษัท เอ็นเนอร์จี แม็คซ์ จำกัด (EMAX) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ALT ได้ชนะการประมูลงานโครงการผลิต อิเล็กทรอนิกส์มิเตอร์ หรือ E-Meter ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (การไฟฟ้า) จำนวน 3 แสนตัว เพื่อดำเนินการติดตั้งในปทุมธานี สระบุรี ปราจีนบุรี เพชรบุรี สมุทรสงคราม เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 โดยได้ดำเนินการส่งมอบงานงวดแรกแล้วช่วงต้นเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา โครงการดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ปัจจุบันเริ่มส่งสินค้าไปแล้ว ถึงว่าเร็วกว่ากำหนดที่วางไว้
สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2566 บริษัทกำไรสุทธิจำนวน 16.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.74 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 1,109% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.33 ล้านบาท โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566
ส่วนรายได้รวมในไตรมาส 2/2566 อยู่ที่ 395.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 56.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้ 252.81 ล้านบาท ในขณะที่กำไรขั้นต้นรวม 57.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24.3% จาก 45.97 ล้านบาท
ซึ่งรายได้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลักๆ มาจากรายได้จากการขายสินค้า 124.98 ล้านบาท เติบโตขึ้น 427.5% จาก 23.69 ล้านบาท โดยในไตรมาส 2/2565 รายได้ส่วนใหญ่มาจากงานขายโซลาร์รูฟท็อปที่มียอดเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันธุรกิจให้บริการโครงข่ายซึ่งรายได้ประจำ (Recurring Income) และเป็นรายได้หลักในสัดส่วน 45.7% ของรายได้รวม ในไตรมาส 2/2566 มีรายได้ 181.02 ล้านบาท เติบโตขึ้น 74.5% จาก 103.37 ล้านบาท
อีกทั้งในไตรมาส 2/2566 บริษัทมีการกลับรายการรายจ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น 16.33 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทสามารถเรียกเก็บเงินจากลูกค้าได้ ทำให้รายจ่ายดังกล่าวที่บริษัทเคยตั้งสำรองไว้ได้ถูกกลับรายการ ซึ่งเป็นผลดีต่อกิจการ
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม