#IP #ทันหุ้น – IP ส่งสัญญาณครึ่งปีหลังเติบโตมากกว่าปีก่อนที่ทำได้ราว 1,523 ล้านบาท พร้อมคลอดโปรดักต์ใหม่ทำเงิน รุกขยายสาขาร้านขายยาแบรนด์ LAB Pharmacy ชูแผนดัน 2บริษัทลูกเข้าระดมทุน ฟากโบรกชี้เป็นจังหวะสะสม มองปี 2567 กำไรกลับมาโตแรง 43% เคาะเป้า 16 บาท

ดร.ตฤณวรรธน์  ธนิตนิธิพันธ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินเตอร์ ฟาร์มา จำกัด (มหาชน) หรือ IP ผู้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา คิดค้น และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและนวัตกรรมความงามสำหรับคน และผลิตภัณฑ์สุขภาพสำหรับสัตว์เลี้ยงและปศุสัตว์ เปิดเผยว่า สำหรับแนวโน้มครึ่งหลังของปี 2566 คาดว่าเติบโตต่อเนื่อง จากการเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และขยายร้านขายยาภายใต้แบรนด์ LAB Pharmacy รวมเป็น 30-31สาขาภายในสิ้นปีนี้ จากที่คาดว่าจะเปิดประมาณ 35สาขา

ทั้งนี้ในไตรมาส 3/2566 บริษัทจะทำการตลาดสินค้าต่อเนื่อง แต่จะใช้งบไม่มากเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/2566และยังได้ไปออกงานแสดงสินค้าที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อหาตัวแทนขายสินค้า และโปรโมตสินค้าให้เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศมากขึ้น

** ตั้งเป้าเติบโต 35%

ขณะที่ภาพรวมผลการดำเนินงานปีนี้บริษัทคาดว่ารายได้รวม จะสามารถเติบโตไม่น้อยกว่า 35% จากปีก่อนที่ทำได้ราว 1,523ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีรายได้รวมเติบโตกว่า 35% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน 925ล้านบาท โดยรายได้จากการขายและบริการโตโดดเด่น 34.9% อยู่ที่ 917 ล้านบาท ตามยอดขายที่เพิ่มขึ้นของทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับคนและสัตว์

ล่าสุดอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการนำ LAB PHARMACY และโรงพยาบาลนครพัฒน์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะใช้งบการเงินปี 2565-2567 ขณะที่โรงพยาบาลนครพัฒน์ เป็นโรงพยาบาลเอกชนขนาด 59 เตียง

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS ระบุว่า IP ได้เกิด Downside Risk ราคาหุ้นจำกัดแล้วจากถูกเทขายไปหลังงบฯ ออกมาผิดคาด เพราะมีการใช้ค่าโฆษณาทีวีที่มากกว่าปกติราวๆ 10-20ล้านบาท และในช่วงครึ่งปีหลัง 2566 แม้จะยังมีการยิงโฆษณาโปรโมตสินค้าใหม่อยู่ช่วง กันยายน-พฤศจิกายน 2566

** เป็นจังหวะสะสม

ขณะที่รายได้ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่า จะเพิ่มขึ้นมาชดเชยได้มาก ดังนั้นจังหวะนี้น่าจะเป็นช่วงของการสะสม หรือ Early Bird call สำหรับนักลงทุนระยะยาว ที่มองข้ามจังหวะสะดุดระยะสั้นจากค่าการตลาด และถือไประยะหนึ่งเพื่อรอ Catalysts ใหม่ได้ เช่น ดีลกับพันธมิตรกลุ่ม ปตท. รวมถึง โอกาสขยายสาขาร้านขายยากับปั้มของ OR และการนำบริษัทย่อยเข้า IPO ต่อเนื่องตั้งแต่ปีหน้า

ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์ได้ประเมิน Fine-Tune กำไรปี 2566-2568 ลง 28-36% เพื่อสะท้อนรายได้ช้ากว่าคาด และค่าใช้จ่ายเพิ่มเข้าไปแล้ว ปี 2567 คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตแรง 43% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แนะนำ “ซื้อ” เลื่อนไปใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 16 บาท โดยราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น PEG เทียบการเติบโตของกำไรปี 2567เพียง 0.6 เท่า

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=