#TSE #ทันหุ้น – TSE เดินหน้าเซ็นสัญญาโครงการโซลาร์ พลังงานทดแทน หลังชนะประมูล 88 เมกะวัตต์ โดยกำหนดCOD เริ่มปี 2571 เพิ่มเมกะวัตต์ในพอร์ต พร้อมศึกษาลงทุนโครงการ Waste to Energy ต่อยอด แย้มอยู่ระหว่างเจรจากับเทศบาล เดินหน้าขยายตลาด “Private PPA” คาดชัดเจนปีหน้า 2-3 โครงการ ล็อกเป้าทั้งปี 2566 เป้ารายได้ที่ 3 พันล้านบาท ปีหน้าโตต่อเนื่อง แย้มไตรมาส 4/2566 ผลงานสดใส

นายสมภพ พรหมพนาพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า สำหรับโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ในรูปแบบ Feed - in Tarif (FT) ปี 2565-2573  ที่บริษัทได้ชนะการประมูล ทั้งหมด 7 โครงการ กำลังผลิตรวมกว่า 88 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นโครงการขนาด SPP จำนวน 2 โครงการ, โครงการ VSPP จำนวน 4 โครงการ และโครงการโซลาร์+แบตเตอรี จำนวน 1 โครงการ โดยโครงการประมูลดังกล่าวได้เริ่มทยอยเซ็นสัญญาแล้ว และคาดว่าในส่วนของโครงการที่บริษัทชนะการประมูล จะเซ็นสัญญาเร็วๆ นี้ ส่วนกำหนดการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ(COD) เริ่มในปี 2571 ซึ่งการชนะประมูลดังกล่าวช่วยสนับสนุนกำลังการผลิตในพอร์ตของบริษัทเพิ่มขึ้น

*เดินหน้าเพิ่มเมกะวัตต์

พร้อมกันนี้ยังมองโอกาสโครงการ Private PPA  (Private Power Purchase Agreement) ที่จะเติบโตได้ หลังภาครัฐบาลส่วนใหม่ สนับสนุนการเปิดเสรีธุรกิจไฟฟ้า ก็เป็นโอกาสของบริษัทด้วยในการเข้าไปดำเนินการด้วย โดยบริษัทมีโครงการที่เป็น Private PPA อยู่แล้ว 1 โครงการเป็นโครงการโซลาร์ลอยน้ำ ทั้งนี้โครงการ Private PPA นี้ก็ให้ผลตอบแทนที่ดี คาดว่าปี 2567 จะเห็นความชัดเจนอีกราว 2-3 โครงการ

ขณะเดียวกันบริษัทยังศึกษา Waste to Energy หรือการผลิตพลังงานจากขยะ ปัจจุบันมีการเจรจากับทางเทศบาล และกระทรวงมหาดไทย ปัจจุบันมีการศึกษาอยู่ 1 โครงการกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ รับซื้อไฟฟ้าที่ 8 เมกะวัตต์ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวหากเดินหน้าตามคาดจะมีการใช้เงินลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท แต่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่บริษัท

“บริษัทเตรียมเซ็นสัญญาโครงการพลังงานทดแทนหลังจากชนะการประมูล และยังเดินหน้าในการเพิ่มกำลังการผลิตอีก แต่ปีนี้ คาดว่าจะไม่มีโครงการ M&A แล้ว และปัจจุบันเดินหน้าเรื่องของ โครงการ Private PPA อยู่ด้วยคาดว่าปีหน้าจะเห็นความชัดเจน และการทำเรื่อง Waste to Energy ก็เป็นโอกาสของบริษัทเช่นเดียวกัน ดังนั้นเชื่อว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าได้ต่อเนื่อง เน้นไปที่โครงการพลังงานทดแทน”นายสมภพ  กล่าว

*ปีนี้รายได้ตามเป้า 3 พันล.

โดยทั้งปียังคงเป้ารายได้ไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากปีก่อนอยู่ที่ 1,974 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โอนิโกเบ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่จังหวัดมิยางิ ในประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิตติดตั้งเสนอขาย 133 เมกะวัตต์ ได้เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวม 286.20 เมกะวัตต์ ขณะที่แผนการเติบโต 5-7 ปีตั้งเป้าจะมีการผลิตกำลังไฟฟ้ารวม 500 เมกะวัตต์ โดยยังคงมองโอกาสการเติบโตทั้งการจัดหาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใหม่ภายใต้แผนพีดีพี, การขยายการลงทุนหรือร่วมลงทุนโซลาร์ฟาร์ม, การเข้าซื้อกิจการโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ โครงการเปลี่ยนขยะให้เป็นพลังงาน รวมถึงโครงการพลังงานหมุนเวียนในต่างประเทศ ทั้งพลังงานลมและโซลาร์ฟาร์ม เพื่อสร้างศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon