#HPT #ทันหุ้น – HPT ส่งสัญญาณมาร์จิ้นปี 2567 กลับมายืนระดับปกติ 25-35% หลังปรับราคาขายใหม่เพิ่มขึ้น 10% พร้อมเดินหน้ากดต้นทุนผลิตลด ฟากผู้บริหาร “นิจวรรณ  เชาว์กิตติโสภณ” ลั่นรายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 325.42 ล้านบาท หลังย้ายแผนขยายเตาเผา

นางสาวนิจวรรณ  เชาว์กิตติโสภณ  กรรมการผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮมพอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารเซรามิกระดับสากล เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดขายโดยทั่วไปยังเติบโตได้ดี ส่วน 2 เดือนสุดท้ายคาดจะสามารถดำเนินธุรกิจได้ตามแผน เพราะช่วงครึ่งปีแรก 2566 บริษัทได้รับผลกระทบจากราคาต้นทุนวัตถุดิบ

** อัพราคาขาย 10%

ทั้งนี้ในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทปรับขึ้นราคาขาย 10% และลดต้นทุนการผลิตลง โดยปลายปีนี้จะรับรู้ราคาต้นทุนใหม่ ทำให้บริษัทมองแนวโน้มมาร์จิ้นจะค่อยๆ ฟื้นตัว และกลับไปยืนที่ระดับปกติในปี 2567 ซึ่งโดยปกติบริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) อยู่ที่ 25-35% โดยมองว่ามีโอกาสเป็นไปได้

ขณะเดียวกันปีนี้ บริษัทปรับลดเป้าลง โดยคาดรายได้ปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงปีก่อน 325.42 ล้านบาท จากเดิมตั้งเป้ารายได้โต 20% โดยการตั้งเป้าหมายโต 20% นั้นเป็นผลจากการขยายเตาเผา แต่ปีนี้บริษัทไม่ได้ขยายเตาตามแผน ส่งผลให้รายได้ลดลง

สำหรับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ยังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยมี Backlog ใกล้เคียงเดิม ส่วนใหญ่เป็นออเดอร์จากลูกค้าต่างประเทศ และเป็นลูกค้าฝั่งยุโรป อเมริกา ขณะเดียวกันแนวโน้มออเดอร์จากลูกค้าฝั่งออสเตรเลียกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ออเดอร์จากออสเตรเลียลดลง สำหรับสัดส่วนยอดขายจากฝั่งออสเตรเลียอยู่ที่ 10%

บริษัทมี Backlog ที่มีอยู่จะทยอยส่งมอบใน 2-3 เดือนข้างหน้า ส่วนตารางการผลิตปัจจุบันยาวไปถึงไตรมาส 4 แล้ว และใช้กำลังผลิตเต็ม 100% ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนยอดขายปัจจุบันจากลูกค้าต่างประเทศ ในอเมริกา และยุโรป รวมกันคิดเป็นสัดส่วน 80% และอีก 20% เป็นสัดส่วนลูกค้าในประเทศ

** กดต้นทุนลด

นางสาวนิจวรรณ กล่าวก่อนหน้านี้ว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการทำโครงการเกี่ยวกับการช่วยลดต้นทุน โดยมุ่งเน้น 2 ส่วนหลักคือพลังงานและวัตถุดิบ ด้านพลังงานบริษัทได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปได้เริ่มผลิตและจ่ายไฟฟ้าเมื่อประมาณกลางเดือนกรกฎาคม 2565 โดยมีกำลังการผลิต 400 กิโลวัตต์ ซึ่งหลังจากการใช้งานเต็มที่ในช่วงไตรมาสที่ 4/2565 สามารถลดหน่วยการใช้ไฟฟ้าของบริษัทแต่ประมาณ 35-40% ของปริมาณเดิม

นอกจากนี้คาดว่าจะช่วยเคลมในส่วนของคาร์บอนฟุตพรินต์ (Carbon Footprint) ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับ Carbon Footprint ขณะที่วัตถุดิบบริษัทก็มีการวิจัยและพัฒนาสูตรดินและเคลือบโดยทดลองกับแหล่งวัตถุดิบใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อหาวัตถุดิบใกล้เคียงหรือดีกว่าในราคาที่ย่อมเยามาปรับใช้ทดแทนวัตถุดิบตัวเดิม

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=