GGC ไตรมาส 3 ขาดทุน 262 ล. -477% ยอดขายลดลง-รับรู้ขาดทุนสต๊อก

#GGC #ทันหุ้น – บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ขาดทุนสุทธิ 262.39 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.26 บาท ลดลง 477% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 69.65 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.07 บาท

สำหรับผลงานงวด 9 เดือน 2566 ขาดทุนสุทธิ 215.57 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.21 บาท ลดลง 122% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 978.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.96 บาท

บริษัทชี้แจงว่า สำหรับผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2566 มีรายได้จากการขายรวมทั้งหมด 3,940 ล้านบาท ปรับตัวลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ร้อยละ 32 และมี Adjusted EBITDA จำนวน 132 ล้านบาท ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 82 ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้ผลกระทบจาก Stock Loss & NRV จำนวน 222 ล้านบาท ส่งผลให้ในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ จำนวน 262 ล้านบาท (-0.26 บาท/หุ้น) ลดลงจำนวน 332 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลงร้อยละ 474 จากไตรมาส 3/2565

ในส่วนของผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2566 เปรียบเทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย จำนวน 13,345 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 35 โดยรับรู้ EBITDA จำนวน 209 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 88 และมี Adjusted EBITDA จำนวน 558 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 72 ทำให้ 9M/2566 บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ จำนวน 216 ล้านบาทลดลง 1,195 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 122

สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจเมทิลเอสเทอร์ในไตรมาส 3/2566 ปริมาณการขายเมทิลเอสเทอร์ปรับตัวลดลงร้อยละ 6 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2565 มาอยู่ที่ 69,395 ตัน จากการแข่งขันที่รุนแรง ถึงแม้ว่า นโยบายภาครัฐจะมีการเพิ่มอัตราการผสมไบโอดีเซลพื้นฐานมาเป็น B7 ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2565 เป็นต้นมา ในขณะที่ ไตรมาสที่3/2565 อัตราการผสมไบโอดีเซลพื้นฐานอยู่ที่ B5 สำหรับราคาเมทิลเอสเทอร์ ในไตรมาส 3/2566 ปรับตัวลดลงร้อยละ 16 ตามราคาน้ำมันปาล์มดิบที่ปรับตัวลดลง เนื่องจากปริมาณน้ำมันปาล์มดิบคงคลังในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลทำให้บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายของธุรกิจผลิตภัณฑ์เมทิลเอสเทอร์ จำนวน 2,696 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีก่อนร้อยละ 22

สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจแฟตตี้แอลกอฮอล์ในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีปริมาณการขายแฟตตี้แอลกอฮอล์ ลดลงร้อยละ 12 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า เป็นผลจากปัจจัยความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอย ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ลดลง จากที่ผู้ซื้อจะจัดซื้อเท่าที่จำเป็น อีกทั้งผู้ซื้อมีทางเลือกในการจัดหาผลิตภัณฑ์โดยเฉพาะผู้ซื้อ Short Chain แฟตตี้แอลกอฮอล์ที่มีการจัดหาผลิตภัณฑ์ จากฝั่งผู้ผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์จากแฟตตี้ แอซิด (Fatty Acids) และแฟตตี้แอลกอฮอล์สังเคราะห์ (Synthetic Fatty AIcohol ที่มีผลผลิตเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับบริษัทฯมีการหยุดดำเนินการผลิตชั่วคราว เพื่อเปลี่ยนตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) ตามแผนที่กำหนด นอกจากนี้ ราคาผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์เฉลี่ยปรับลดลงร้อยละ 32 ตามราคาน้ำมันเมล็ดในปาล์มดิบที่ลดลง จากปัจจัยความกังวลด้านเศรษฐกิจถดถอยเช่นกัน ที่กดดันราคาวัตถุดิบและราคาผลิตภัณฑ์ปรับตัวลดลงตามสภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้งอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากการที่ผู้ผลิตหลายรายที่มีการหยุดดำเนินการผลิตชั่วคราวกลับมาผลิตได้ตามปกติ ประกอบกับผู้ผลิตแฟตตี้แอซิด (Fatty Acids) หลายราย มีการปรับสายการผลิตมาผลิตแฟตตี้แอลกอฮอล์มากขึ้น จึงทำให้ราคาผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์เฉลี่ยปรับลดลง จากปัจจัยข้างต้น ส่งผลให้บริษัท ฯ รับรู้รายได้จากการขายของธุรกิจผลิตภัณฑ์แฟตตี้แอลกอฮอล์ จำนวน 1,221 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 3/2565 ร้อยละ 48

สำหรับผลการดำเนินงานในธุรกิจอื่นจากแผนกลยุทธ์ของบริษัทฯ ในการมุ่งสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม บริษัทฯได้เริ่มดำเนินธุรกิจ Food & Nutraceutical ซึ่งจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ เป็นส่วนประกอบอาหารและโภชนเภสัชต่างๆ อาทิ กลุ่มสารให้ความหวาน กลุ่ม Plant Based Protein กลุ่ม Antioxidant Extract เป็นต้น โดยในไตรมาส 3/2566 บริษัทฯรับรู้รายได้จากธุรกิจ Food & Nutraceutical จำนวน 23 ล้านบาท

สำหรับสถานะทางการเงิน ณ วันที่ 30 กันยายน 2566 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 13,045 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยส่วนที่เป็นเงินสด เงินลงทุนระยะสั้น และเงินฝากที่มีข้อจำกัดในการใช้รวมทั้งสิ้น 3,705 ล้านบาท มีหนี้สินรวมทั้งสิ้น 3,293 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 9,752 ล้านบาท