#GGC #ทันหุ้น - GGC ปักเป้าปี 2567 อีบิทดาแตะราว 800 ล้านบาท รับธุรกิจทุกกลุ่มทรงตัว แถมเปิดผลิตภัณฑ์อาหารเสริม "Nutralist" สร้างไฮแวลูธุรกิจ แถมลุยโมเดลหนุนการเติบโตยั่งยืน-พ่วงรุกโปรดักต์ปลายน้ำ หวังต่อยอดดันผลงานแตะ 3 พันล้านบาท ในปี 2569

นายกฤษฎา  ประเสริฐสุโข  กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทประมาณการกำไรก่อนหักภาษีและค่าเสื่อมต่างๆ (EBITDA หรือ อีบิทดา) ใกล้เคียงปี 2566 ที่ราว 800 ล้านบาท เนื่องมองธุรกิจในส่วนต่างๆ ยังทรงตัว รวมทั้งบริษัทมีแนวทางออกผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง เพื่อเสริมรายรับในอนาคต

แตกไลน์อาหารเสริม

ขณะเดียวกันล่าสุดบริษัทได้ขยายธุรกิจสู่ตลาดในกลุ่มFood Ingredients & Pharmaceutical ในฐานะผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นGreen Product เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่ต้องการมีสุขภาพดีภายใต้แบรนด์“Nutralist" ผ่านการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารเสริม 2 ตัว คือ Astaxanthin และ Probiotic ซึ่งถือว่าเป็นหนึ่งก้าวที่สำคัญของGGC ที่ต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การขยายพอร์ตการลงทุนในธุรกิจเสริมอาหารเพื่อสุขภาพ เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่ากลุ่มผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความต้องการสูงและตอบสนองต่อLifestyle ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพในปัจจุบัน รวมทั้งยังมีแนวทางออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม (ไฮแวลู) ให้กับธุรกิจต่อไป

ทั้งนี้บริษัทคาดว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของGGC เติบโตได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในอนาคต พร้อมตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจกลุ่มFood Ingredients & Pharmaceutical ไว้ที่10% ของ EBITDA หรือคิดเป็นมูลค่า 300 ล้านบาท ภายในปี2569

ขณะที่ในปี 2567 ทาง GGC ยังมุ่งพัฒนายกระดับศักยภาพในทุกด้านเพื่อการเติบโต ของกลุ่มธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง พัฒนาและยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนต่อไปในอนาคต ตามวิสัยทัศน์ “To Be A Leading Green Chemical Company By Creating Sustainable Value" หรือเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ เคมีเพื่อสิ่งแวดล้อม พร้อมขับเคลื่อนพลังแห่งการสร้างสรรค์ เพื่อคุณค่าที่ยั่งยืน

สำหรับในระยะยาวบริษัทเดินหน้าสร้างโอกาสการเติบโตสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงและยั่งยืน ภายใต้กรอบยุทธศาสตร์The New Chapter of GGC to be the Sustainable Growth Business : Execution for Success ผ่านการมุ่งมั่นดำเนินการตาม 3 กลยุทธ์หลัก คือ เข้มแข็ง เติบโต ยั่งยืน เพื่อเป็นกุญแจสำคัญธุรกิจต่อไป

โดยในส่วน เข้มแข็ง (Enhance Competitiveness) : สร้างความเป็นเลิศในด้านการผลิต มุ่งเน้นการลดต้นทุน ในองค์กร (Cost Optimization) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเงินและสร้างมูลค่าสูงสุดจากทรัพยากรที่ใช้ในกิจการ การปรับปรุงการใช้วัตถุดิบ (Feedstock Optimization) โดยเน้นการใช้วัตถุดิบทางเลือกอย่าง เหมาะสม การเพิ่มยอดขายของสินค้าที่ผลิตจากวัตถุดิบ RSPO (FA) บริหารจัดการการดำเนินธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ปี 69 อีบิทดาชน 3 พันล.

ส่วนเติบโต (Growth Portfolio) : ปรับ Portfolio ให้ชัดเจนสำหรับการลงทุนใน 3 กลุ่มธุรกิจ Bioenergy, Biochemicals และ Food Ingredients & Pharmaceutical เพื่อความพร้อมในการปรับตัวให้ สอดรับกับความท้าทายและสถานการณ์เศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยการต่อยอดธุรกิจเดิมสู่การเพิ่ม โอกาสในการเข้าสู่ผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงขึ้น (High Value Product) โดยการขยายพอร์ตการลงทุนใน 3 กลุ่ม ได้แก่ ธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ, ธุรกิจเคมีชีวภาพ (Bio Chemical Business, ธุรกิจ Food Ingredients & Pharmaceutical

และด้านยั่งยืน (Sustainability Development) : มุ่งมั่นการดำเนินธุรกิจตามแนวทาง ESG และได้รับการ ยอมรับในระดับสากล รวมทั้งแสวงหาโอกาสทางธุรกิจจาก Decarbonization โดย GGC ยังคงเดินหน้าเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ของสหประชาชาติ (United Nations : UN) ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดยุทธศาสตร์การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก สุทธิเป็นศูนย์ในปี 2593  โดยกำหนดเป้าหมายเพื่อวัดประสิทธิผลในระยะสั้นในปี 2573  เพื่อที่จะลด CO2 ให้ได้ 20% ซึ่งหากแผนงานต่างๆ ทั้งการขยายธุรกิจปลายน้ำและอื่นๆ สำเร็จตามที่วางไว้จะช่วยผลักดันให้ EBITDA ขยับไปแตะ 3 พันล้านบาท ในปี 2569

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1