> SET > S

16 พฤศจิกายน 2023 เวลา 11:28 น.

S ไตรมาส 4 อัตราค่าห้องพักโตโดด

#S #ทันหุ้น - สิงห์ เอสเตท รายงานรายได้รวมจากการขายและการบริการสำหรับ 9 เดือนแรก จำนวน 10,072 ล้านบาท โดยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ เติบโตเด่นถึง 34%


บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ประกาศรายได้รวมจำนวนเติบโตขึ้น 19% โดยรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทฯ จำนวน 1,902 ล้านบาท เติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญถึง 34% ซึ่งประกอบด้วย (1) ยอดโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์เพื่อการพักอาศัยสะสม 9 เดือนจำนวน 1,692 ล้านบาท ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากการเปิดตัวโครงการพร้อมโอน “ลาซัวว์ เดอ เอส” โครงการแฟล็กชิพ ประเภท Cluster Home ระดับอัลตร้าลักชัวรี การรับรู้รายได้เต็มจำนวนของโครงการ ดิ เอส สุขุมวิท 36 ที่สิงห์ เอสเตทเข้าถือหุ้น 100% เพื่อรองรับโอกาสการฟื้นตัวของดีมานด์กลุ่มคอนโดมิเนียม และการโอนกรรมกรรมสิทธ์ของโครงการศิรนินทร์ เรสซิเดนเซส (2) รายได้จากการขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรม จำนวน 36 ล้านบาท รวมถึง (3) การรับรู้ค่าเช่าของโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ ตามสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาวจำนวน 175 ล้านบาท


สำหรับรายได้จากการให้บริการของบริษัทฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 16% มีสาเหตุสำคัญมาจากรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 18% สู่จำนวน 7,222 ล้านบาท ซึ่งได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวต่อเนื่องของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก โดยอัตราการเข้าพักเฉลี่ยของโรมแรมบริษัทฯ ที่คำนวณเฉพาะห้องพักที่เปิดให้บริการของบริษัทฯ ที่ 71% ปรับเพิ่มขึ้นถึง 12% จากปีก่อนหน้า รวมถึง ADR ที่เติบโตจากศักยภาพในการปรับราคาของ SHR ที่มีจุดแข็งด้านทำเลที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่ในจุดหมายปลายทางอันดับต้น ๆ ของการท่องเที่ยว มาตรฐานการบริการที่เป็นเลิศ และกลยุทธ์ทางการตลาดเชิงรุก สำหรับรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ในช่วงครึ่งปีแรกจำนวน 259 ล้านบาททรงตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี จากการทยอยรับรู้รายได้ตามการส่งมอบพื้นที่เช่าของอาคารเอส โอเอซิส (S OASIS)


นางฐิติมา รุ่งขวัญศิริโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ ‘S’ เปิดเผยว่า “เราผลักดันรายได้ของสิงห์ เอสเตท ในช่วง 9 เดือนแรกให้เติบโตได้ตามแผนการลงทุน ควบคู่กับการคุมต้นทุนต่าง ๆ ให้มีประสิทธิภาพเหมาะสมกับช่วงการขยายธุรกิจและเปิดตลาดใหม่ ส่งผลให้เรามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และรายการที่ไม่ได้เกิดขึ้นประจำจากการดำเนินงานปกติ (Adjusted EBITDA) ที่ 2,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลการดำเนินงานดังกล่าวเป็นตัวพิสูจน์การปรับตัวทางธุรกิจให้สามารถช่วงชิงโอกาสได้ทันกับการฟื้นตัวของธุรกิจที่พักอาศัยและโรงแรม และสะท้อนผลสำเร็จจากการพัฒนาสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์การส่งเสริมคุณภาพชีวิตของลูกค้า ที่สิงห์ เอสเตทได้ทำมาตลอด และเราเชื่อมั่นว่าในไตรมาสที่ 4 เราจะสามารถขับเคลื่อนผลประกอบการที่สูงที่สุดในปีได้ เนื่องจากการรับรู้ยอดโอนของโครงการใหม่ สริน ราชพฤกษ์สาย 1 ที่มีมูลค่า 3,800 ล้านบาทและเปิดตัวในต้นไตรมาส 4 ที่ผ่านมา ได้รับความสนใจอย่างดีและมียอดจองเป็นไปตามเป้าหมายกว่า 10% รวมถึงพอร์ตโรงแรมของ SHR ซึ่งเป็นผลจากการที่ห้องพักรูปแบบใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว พร้อมเปิดให้บริการลูกค้าในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของปี พร้อมทั้งปริมาณความต้องการเดินทางของลูกค้า Long-haul market ที่กลับมาคึกคักอีกครั้งตามการเปิดเส้นทางบิน


ในปีนี้ สิงห์ เอสเตท ลงทุนขยายโครงการบ้านแนวราบครบทุกเซกเมนต์ลักชัวรีตามแผนงาน และยังคงไว้ซึ่งการถ่ายทอด DNA ที่ยึดถือในการพัฒนาโครงการให้ได้คุณภาพระดับ Best in Class แม้ว่าเซกเมนต์ที่เราขยายเข้ามาใหม่นี้ ถือว่าสิงห์ เอสเตทได้เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้เป็นครั้งแรก แต่ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า เนื่องจากความเชื่อมั่นต่อความเชี่ยวชาญในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรี และความเชื่อถือแบรนด์ของสิงห์ เอสเตท ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพเหนือระดับเพื่อส่งมอบประสบการณ์อันทรงคุณค่าให้ลูกค้า


แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 ในธุรกิจที่พักอาศัยนั้น นอกเหนือจาก backlog ราว 4,000 ล้านบาท เสริมทัพด้วย Product บ้านเดี่ยวพร้อมขายที่เราพึ่งเปิดตัวในช่วงสิ้นปีแล้ว สิงห์ เอสเตทเตรียมพร้อมส่งมอบห้องชุดในกับลูกค้าโครงการ ดิ เอ็กโทร พญาไทรางน้ำ ในช่วงต้นปี 2567 รวมถึงคอนโดมิเนียมโครงการใหม่ที่ได้เข้าร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจในการพัฒนาคอนโดในเซกเมนต์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดใหญ่และเติบโตดีที่สุด ในระดับราคา 100,000 – 200,000 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งอยู่นอกเหนือจาก Pillar แบรนด์ที่พัฒนาโดยสิงห์ เอสเตท เอง โดยโครงการร่วมทุนนี้ จะตอบโจทย์ให้เราเข้าช่วงชิงโอกาสจากการฟื้นตัวของตลาดคอนโดในกลุ่มรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป โดยบริษัทฯ วางแผนจะเปิดขายในปี 2567 เป็นต้นไป


สำหรับธุรกิจโรงแรมมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นชัดเจนในไตรมาสสุดท้ายของปี ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2567 จากการเติบโตต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว และสัญญาณการฟื้นตัวของการเดินทางระหว่างภูมิภาคซึ่งสอดคล้องกับการเพิ่มเส้นทางบิน




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoo

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X