#บลกสิกร #ทันหุ้น - บล.กสิกรคาดกำไร AEONTS จะลดลงอย่างมาก  Q0Q เนื่องจากไม่มีกำไรจากการขายหนี้เสีย (NPL) ให้ราคาเป้าหมายที่ 158 บาท 

บล.กสิกรคาดกำไรไตรมาส 3QFY67 จะลดลงทั้ง Y0Y และ Q0Q เราคาดว่า AEONTS จะรายงานกำไรไตรมาส 3QFY67 (เดือน ก.ย.-พ.ย.2566 ที่ 703 ลบ. ลดลง 17% Q0Q และ 36% Y0Y แม้เราคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานก่อนตั้งสำรอง (PPOP) จะทรงตัว (Q0Q แต่คาดกำไรไตรมาส 3QFY67 จะลดลงอย่างมาก Q0Q เนื่องจากไม่มีกำไรจากการขายหนี้เสีย(NPL) เหมือนในไตรมาส 20FY67 ที่ 167 ลบ. เราคาดว่ากำไรจะลดลง YOY อย่างมีนัยสำคัญ จากส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ์ (NIM) ที่ลดลง 56bps Y0Y ตามต้นทุนดอกเบี้ย อัตราส่วนต้นทุน/รายได้ และค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญ (credit cost) ที่สูงขึ้น จากการเก็บเงินสดที่อ่อนแอจากลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากหนี้ครัวเรือนที่สูง ส่งผลให้เราคาดว่ากำไรช่วง 9 เดือนแรกของ FY2567 คิดเป็น 74% ของประมาณการกำไรทั้งปี FY2567 ที่ 2.9 พัน ลบ. (-24% YOY)

คาดสินเชื่อทรงตัวและ PPOP อ่อนแอเล็กน้อย เราคาดว่า PPOP ไตรมาส 3QFY67 จะอยู่ ที่ 2.83 พันลบ. ลดลง 1% Q0Q และ 6% YoY เราคาดว่าสินเชื่อไตรมาส 3QFY67 จะทรงตัว Q0Q และลดลงเล็กน้อย 1% YoY เป็น 9.397 หมื่นลบ. เนื่องจากเราคาดว่าการอนุมัติสินเชื่อจาก AEONTS จะเข้มงวดขึ้นเพื่อควบคุม NPL และความล่าช้าในการใช้จ่ายของลูกค้าเพื่อรอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชัดเจนจากรัฐบาล เราคาดว่า NIM ไตรมาส 30FY67 จะลดลง 13bps Q0Q และ 56bps YOY เป็น 17.75 จากต้นทุนดอกเบี้ยที่คาดว่าจะสูงขึ้น14bps Q0Q และ 91 bps YOY เป็น 3.66% ในไตรมาส 3QFY67 คาดว่าหนี้เสียจะฟื้นตัวอย่างมั่นคง Q0Q ที่ 450 ลบ. ในไตรมาส 30FY67 และคาดว่าอัตราส่วนต้นทุน/รายได้ไตรมาส 3QFY67 จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 42 จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Opex) ที่ทรงตัว แต่คาดรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) จะลดลงเล็กน้อย

คาดอัตราส่วน NPL จะทรงตัว คาดว่า AEONTS จะรายงานอัตราส่วน NPL ไตรมาส 3QFY67 ที่ 6.2% ทรงตัว Q0Q แต่เพิ่มขึ้น 60bps YoY เราคาดว่าการตัดหนี้เสียจะเพิ่มขึ้นในไตรมาส 3QFY67 เพื่อรับมือกับการก่อ NPL ใหม่ที่สูงขึ้นในไตรมาสนี้ ขณะเดียวกัน เราคาดว่าการก่อ NPL ใหม่จะเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงในไตรมาส 3QFY67 และคาดว่า AEONTS จะสามารถรักษา coverage ratio ไว้ที่ 171% ในไตรมาส 30FY67 ลดลงเล็กน้อยจาก 174%ในไตรมาส 2QFY67

ผลกระทบจากมาตรการบรรเทาหนี้ล่าสุดของรัฐบาลมีอยู่อย่างจำกัด เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2566 นายเศรษ ฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ที่ประชาชนจำนวน 10.3 ล้านคน กำลังเผชิญอยู่ นายกฯ มีแผนที่จะใช้ "คลินิกหนี้" สำหรับลูกค้าบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคลที่เป็น NPL เพื่อลดอัตราดอกเบี้ยให้เหลือ 3-5% และแปลงสินเชื่อเป็นสินเชื่อระยะยาวสูงสุด 10 ปี เราคาดว่าผลกระทบต่อผู้ให้บริการบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลอย่าง AEONTS จะมีอยู่อย่างจำกัดตามมาตรการบรรเทาหนี้ที่ถูกบังคับใช้ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผู้บริหาร AEONTS ระบุว่ามีลูกค้าเพียงไม่กี่รายเท่านั้นที่เข้าร่วมโครงการ "คลินิกหนี้"

คงคำแนะนำ "ถือ" และราคาเป้าหมายที่ 158 บาท แม้มูลค่าหุ้นล่าสุดของ AEONTS ค่อนข้างถูก โดยซื้อขายด้วย PBV ปี FY2568 ที่ 1.4 เท่า หรือเท่ากับ 1.5SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยPBV ในอดีต แต่แนวโน้มกำไรของบริษัทฯ ยังคงอ่อนแอในช่วงครึ่งหลังของปี FY2567 จาก credit cost ที่คาดว่าจะสูงและ NIM ที่ลดลง เราเชื่อว่าความท้าทายหลักต่อคุณภาพสินทรัพย์ของ AEONTS คือการเพิ่มการชำระเงินชั้นต่ำของบัตรเครดิตเป็น 8% และ 10% ในปี 2567-68 จาก 5% ใน ปี 2566 ซึ่งอาจเพิ่มการก่อตัวของ NPL ใหม่อีกครั้งในช่วงต้นปี 2567

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1