> SET > DTCENT

28 ธันวาคม 2023 เวลา 12:10 น.

DTCENTเป้าปีหน้าโต20% เดินหน้าคว้าโปรเจ็กต์ใหม่

#DTCENT #ทันหุ้น –DTCENT ประเมินภาพรวมธุรกิจในปี 2567 สดใส ภาครัฐเดินหน้าลงทุนต่อยอดโปรเจ็กต์สมาร์ทซิตี้ หนุนโอกาสคว้างานใหม่เข้ามาเติมพอร์ต วางเป้ารายได้ปีหน้าโตไม่ต่ำกว่า 15-20% จากปีนี้ พร้อมรุกขยายสาขาเพิ่ม 20-30 สาขา กระจายทั่วประเทศ เล็งอัพฐานต่างแกน แย้มมีดีลใหม่อยู่ระหว่างเจรจาคาดรู้ผลเร็วๆ นี้


นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCENT ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเมินภาพรวมธุรกิจและอุตสาหกรรมในปี 2567 เชื่อว่าจะมีการขยายตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ปัญหาเรื่องโรคระบาดคลายตัวลง ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ทำให้มีการเดินทางและการขนส่งที่เพิ่มขึ้น


ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าการขยายตัวของอุตสาหกรรมในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 15-20% จากปีนี้ ส่งผลให้คาดว่าการเติบโตของผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตในระดับเฉลี่ยที่ใกล้เคียง 15-20% เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีความสนใจในการเข้ารับงานโครงการใหม่ๆ จากหน่วยงานภาครัฐ ทั้งในส่วนที่เป็น บริการระบบ GPS Tracking ผลิตภัณฑ์และโซลูชันใหม่ IoT Solution รองรับการขยายโครงการของภาครัฐ เช่น งานโครงการด้านเมืองอัจฉริยะ (SMART CITY) ตามเทศบาลต่างๆ


และ ระบบ AI อย่าง BAMS (Business Activity Management System) รวมทั้งระบบบริหารจัดการน้ำ และระบบ BIM (Building Information Modeling), EV Platform, Logistics Demand-Supply Matching Platform อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีโอกาสเข้าไปรับงานโครงการนำร่อง SMART CITY ของหน่วยงานเทศบาลในหลายพื้นที่แล้ว และคาดว่าในปี 2567 ก็มีโอกาสที่จะได้รับงานใหม่เข้ามาเพิ่มเติมทั้งที่เป็นงานโครงการใหม่ และโครงการต่อเนื่องจากโครงการนำร่องที่ทำอยู่


*เล็งอัพฐานต่างแดน

รวมถึงยังมีรายได้จากการให้บริการดูแลและซ่อมบำรุงในงานโครงการเดิมที่มีเข้ามาเพิ่มเติมอีกด้วย มองว่าจากการวางนโยบายการลงทุนที่ชัดเจนของภาครัฐทำให้การลงทุนพัฒนาพื้นที่ต่างๆ ในปี 2567 จะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และด้วยบริษัทมีประสบการณ์ในการพัฒนาโครงการในพอร์ตแล้ว ก็ทำให้มีโอกาสที่จะได้รับงานใหม่มาเติมพอร์ตเพิ่มในอนาคตอีกด้วย


ขณะเดียวกันบริษัทยังมีความสนใจที่จะนำเอาผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งเกี่ยวเนื่องกับระบบ GPS Tracking และระบบบริหารจัดการน้ำ และระบบ BIM ขยายการให้บริการและการจำหน่ายออกไปยังตลาดต่างประเทศอีกด้วย ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการเจรจากับทางพันธมิตรที่เป็นองค์กรใหญ่ มีศักยภาพในประเทศกัมพูชา เบื้องต้นคาดว่าใช้เวลาอีกระยะหนึ่งจึงจะได้ข้อสรุป


ส่วนงานบริการระบบ GPS Tracking ในปีหน้าก็จะยกระดับความเข้มข้นมากขึ้น และมองขยายการรับงานไปยังกลุ่มรถหกล้อ เนื่องจากในภายภาคหน้าจะมีกฎหมายข้อบังคับในการควบคุมความปลอดภัยของรถขนส่งหกล้อเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาบริษัทก็ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับทางหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามผลความเป็นไปได้อย่างใกล้ชิด ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการเข้าไปพูดคุยหารือกับทางขนส่งเพื่อร่วมมือกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และโซลูชันที่ให้รองรับสำหรับการควบคุมการขนส่งแบบภาคบังคับ อาทิ การขนส่งบุคคล และการขนส่งสารเคมี


*ลุยขยายสาขาเพิ่ม

รวมถึงเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ ที่จะนำเอาเทคโนโลยีใหม่เข้ามาช่วย เบื้องต้นคาดว่าจะมีข้อสรุปที่ชัดเจนไม่เกินปลายปี 2567 เป็นต้นไป นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการปรับกลยุทธ์เชิงรุกในการด้วยการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มรายย่อยและยานยนต์ส่วนบุคคลที่เพิ่มมากขึ้น โดยบริษัทมีแผนเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับป้องกันอุบัติเหตุและความปลอดภัยในยานยนต์เพิ่มมากขึ้น ผ่านการเปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องกับป้องกันอุบัติเหตุและความปลอดภัยในยานยนต์ส่วนบุคคล คาดว่าในปี 2567 จะมีการขยายสาขาใหม่เพิ่มอีก 11-21 สาขา หรือสิ้นปีหน้าจะเพิ่มเป็นกว่า 20-30 สาขา กระจายทั่วประเทศ จากสิ้นปี 2566 ที่มีจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 9 สาขา


โดยภายในร้านจำหน่ายดังกล่าวจะมีผลิตภัณฑ์กล้องติดหน้าและหลังรถยนต์ บริการติดตั้ง รวมถึงให้บริการด้านประกันภัยต่างๆ ของพันธมิตรเข้าไปให้บริการร่วมด้วย และด้วยร้านจำหน่ายที่กระจายไปในหัวเมืองสำคัญต่างๆ ทั่วประเทศ ยังช่วยประหยัดต้นทุนในการดูแลฐานลูกค้าเดิม ช่วยเพิ่มความสามารถในการเข้าถึงและการให้บริการลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ คาดว่าสัดส่วนรายได้จากช็อปในปีหน้าจะคิดเป็นไม่น้อยกว่า 10-15% และภายใน 3 ปีจะเพิ่มเป็นกว่า 30% ของรายได้รวม


*หาโอกาสลงทุนเพิ่ม

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนเพื่อต่อยอดและเสริมความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีการศึกษาการลงทุนในธุรกิจพัฒนาเกี่ยวเนื่องกับ Soft ware ที่จะมาเป็นกำลังเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการขยายการรับในด้านงานใหม่ๆ ให้เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ซึ่งในตอนนี้มีการเจรจากันในเบื้องต้นไปบ้างแล้ว คาดว่าภายในช่วงไตรมาส 3/2567 หรือไม่เกินไตรมาส 4/2567 จะได้ข้อสรุปการลงทุนที่ชัดเจน ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ทั้งแบบการควบรวมกิจการ (M&A) และการร่วมทุน (JV)


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X