#สหพัฒน์#ทันหุ้น- ในช่วงเกิดวิกฤติโควิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งการใช้ชีวิตประจำวัน การดำเนินธุรกิจ ทำให้หลายๆบริษัทต้องปิดกิจการ เพราะประสบปัญหาทางการเงิน ขาดสภาพคล่อง แต่ในทางกลับกันเป็นโอกาสในการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ อย่าง “เครือสหพัฒน์”ในการรุกเข้าสู่ธุรกิจไฟแนนซิ่ง เป็นครั้งแรก

นายยศกร ศรีสุขสวัสดิ์  หัวหน้าคณะผู้บริหาร สายงานลงทุน บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน)หรือ TNL  เล่าให้ฟังว่า จุดเริ่มต้นการทำธุรกิจไฟแนนซิ่งของเครือสหพัฒน์ ต้องย้อนกลับไปในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ที่ทำให้หลายบริษัทประสบปัญหาทางการเงิน ขาดสภาพคล่อง และมีคนติดต่อขอกู้เงินกับคุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานกรรมเครือสหพัฒน์

โดยคุณบุณยสิทธิ์  มองว่าการให้ไฟแแนนซิ่งเพื่อ"ต่อลมหายใจ"ให้กับธุรกิจสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้เป็นเรื่องสำคัญ และยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยด้วย จึงเป็นจุดเริ่มต้นการจัดตั้งบริษัทปล่อยสินเชื่อ โดยคุณบุญสิทธิ์ เป็นคนตั้งชื่อ บริษัท ออกซิเจน แอสเซ็ท (Oxygen) ซึ่งออกซิเจน คือ การต่อลมหายใจ

ทว่าการให้ปล่อยสินเชื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยของอีโคซิสเต็มนี้ ในขณะที่สถาบันการเงินเองก็มีหนี้เสีย(NPL)สูง ทำให้ไม่สามารถปล่อยกู้ดีๆให้กับลูกค้ารายย่อย และลูกค้าองค์กรได้ ซึ่งการที่เราไปซื้อหนี้เสียออกมา ก็เป็นการช่วยสถาบันการเงินให้มีเงินไปปล่อยกู้กับลูกค้าได้ โดยให้บริษัทบริหารสินทรัพย์ ออกซิเจน จำกัด (OAM)ก็ไปเจรจากับลูกหนี้ในการเก็บหนี้ต่อ ทำให้อีโคซิสเต็มในการช่วยเหลือครบลูปมากขึ้น

แผนดันTNLเติบโตแกร่ง

น.ส. สุธิดา จงเจนกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ SPI และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL กล่าวว่า  เดิมบริษัท ออกซิเจน แอสเซ็ทนั้นอยู่ภายใต้ บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)หรือ SPI และจากที่มีการทดลองปล่อยสินเชื่อแล้วพบว่าทำแล้วดี และมีพันมิตรที่ดี มีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยทำธุรกิจนี้

ดังนั้นจึงปรับโครงสร้างนำออกซิเจน แอสเซ็ท มาอยู่ภายใต้TNL เพราะ ตั้งแต่โควิดเราเห็นเทรนด์แล้วว่ทุกคนไม่แต่งหน้า ไม่แฟชั่น ทำให้ธุรกิจ TNL ทรงตัวแต่ไม่เติบโต ซึ่งทางTNL เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งทางผู้บริหารอยากให้นักลงทุนได้ลงทุนในบริษัทที่ดี มีการเติบโต หลังจากนั้นก็มี AMC เข้ามา เพราะ เป็นส่วนหนึ่งของอีโคซิสเต็มที่ดี และปัจจุบันเรามองหาว่าจะมีอะไรที่เป็นอีโคซินเต็มเดียวกันอีก เพราะ การปล่อยสินเชื่อมีหลักประกันทั้งหมดเป็นอสังหาทั้งหมด จึงมีการคุยกับทางบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ว่า TNL จะมีการปรับโครงสร้างและมีธุรกิจใหม่ด้านการเงิน  โดย BTS สนใจเข้ามาถือหุ้นของTNL สัดส่วน 42.12 % ละBTS มีอสังหาเยอะมาก เราก็เลือกที่ตรงกับเรา

พอผ่านไป 1 ปี พบว่าการดำเนินธุรกิจไปด้วยกันได้ดี สามารถช่วยบริหารความเสี่ยงได้ เหมือนTNL เป็นโฮลดิ้ง สามารถจัดพอร์ตความเสี่ยงได้ว่าแต่ละไซเคิลธุรกิจไหนเติบโตก็ส่งเสริม เช่น หากธุรกิจพัฒนาอสังหาชะลอ ก็ยังธุรกิจตัวอื่นที่ช่วยทำให้บริษัทมีกำไร สามารถพึ่งพากันเป็นไปได้ด้วยดี และอนาคตก็จะมีธุรกจอื่นๆที่เป็นซินเนอร์จี้กันเข้ามาอีก

“เครือสหพัฒน์นั้นทำธุรกิจหลายอย่าง ซึ่งธุรกิจที่ทางเครือสหพัฒน์ไม่ทำ คือ ธุรกิจเกี่ยวกับการฆ่าสัตว์ เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ และธุรกิจการรับฝากเงิน เพราะ 2 ธุรกิจแรกนั้นเป็นแนวทางของเครือ ส่วนธุรกิจรับฝากเงินไม่ทำ เพราะหากบริหารผิดพลาดจะทำให้คนตัวเล็กเสียหาย นอกจากนั้นไม่เคยปิดว่าจะไม่ทำอะไร และการทำธุรกกิจการเงิน เพราะในช่วงโควิด หลายบริษัทขาดสภาพคล่อง ซึ่งเราไม่ผิดอะไร มีสินทรัพย์ที่ดี จึงมีการปล่อยสินเชื่อให้”

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1