> SET > MPIC

21 กุมภาพันธ์ 2024 เวลา 14:26 น.

หุ้น ZAA +4.00% สวนผลงานปี 66 ขาดทุน 49.73 ลบ. - งดจ่ายปันผล

#ZAA #ทันหุ้น - บริษัท ซาเล็คต้า จำกัด (มหาชน) หรือ ZAA (เดิมชื่อบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC) แจ้งผลการดำเนินงานงวดปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 49.73 ล้านบาท ขาดทุนต่อหุ้น 0.0382 บาท ลดลง 299.13% เทียบกับงวดปี 2565 มีกำไรสุทธิ 24.97 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.0192 บาท  คณะกรรมการบริษัทมีมติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2566


กำหนดการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-Meeting) ในวันที่ 25 เม.ย.2567 เวลา 14.00 น. วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิเข้าร่วมประชุม (Record date) 12 มี.ค.2567 วันที่ไม่ได้รับสิทธิเข้าประชุม 11 มี.ค.2567 วาระการประชุมที่สำคัญ งดจ่ายเงินปันผล


ราคาหุ้น ZAA เคลื่อนไหวในกรอบ 1.22-1.40 บาท ก่อนปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 1.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท หรือ +4.00% มูลค่าการซื้อขาย 8.39 ล้านบาท


บริษัท ZAA เดิมชื่อบริษัท เอ็ม พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPIC ประกอบธุรกิจลงทุนในกิจการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจด้านภาพยนตร์ โดยผ่านทางบริษัทย่อยต่างๆ เช่น ธุรกิจเกี่ยวกับการจัดซื้อลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ และธุรกิจผลิตภาพยนตร์ไทย เพื่อจัดจำหน่ายผ่านโรงภาพยนตร์ พร้อมทั้งการขายลิขสิทธิ์ให้สื่อทางทีวีในรูปแบบของ Cable TV, Free TV, Internet, IPTV, Video on Demand เป็นต้น

บริษัทชี้แจงผลการดำเนินงานงวดปี 2566 ดังนี้

รายได้

รายได้รวมของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ลดลงจาก 284.71 ล้านบาท เป็น 188.33 ล้านบาท หรือลดลง 96.38 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 33.85 สาเหตุหลักมาจากทั้งจำนวนภาพยนตร์ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์และรายได้ธุรกิจผลิตภาพยนตร์ลดลง


ต้นทุนขายและการให้บริการ

ต้นทุนขายและการให้บริการของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนลดลงจาก 170.84 ล้านบาท เป็น 91.98 ล้านบาท หรือลดลง 78.86 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 46.16 เป็นผลมาจากต้นทุนของธุรกิจผลิตภาพยนตร์ที่ลดลงตามการลดลงของรายได้


รายได้อื่น

รายได้อื่นของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ลดลงจาก 7.81 ล้านบาท เป็น 3.71 ล้านบาท หรือลดลง 4.10 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 52.47 สาเหตุหลักมาจากในปีก่อนบริษัทย่อยแห่งหนึ่งรับรู้รายได้จากการตัดจำหน่ายหนี้สินที่ไม่ต้องชำระหลังจากคดีความสิ้นสุดลง


กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สิน

กำไรจากการจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็น 11.82 ล้านบาท เป็นผลกำไรจากการจำหน่ายกรรมสิทธิ์ในห้องชุดของบริษัทที่ไม่ได้ใช้ดำเนินการเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา


ค่าใช้จ่ายในการขาย

ค่าใช้จ่ายในการขายของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นจาก 10.19 ล้านบาท เป็น 26.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 16.30 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ภาพยนตร์ใหม่ที่เข้าฉายภายในงวดที่เน้นช่องทางทีวีเพิ่มขึ้น


ค่าใช้จ่ายในการบริหาร

ค่าใช้จ่ายในการบริหารของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนเพิ่มขึ้นจาก 67.70 ล้านบาท เป็น 74.70 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.00 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 10.34 สาเหตุหลักเกิดจากค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าที่ปรึกษาการเตรียมตัวเพื่อใช้กฎหมายข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น


ขาดทุนจากการด้อยค่าของค่าความนิยม

ขาดทุนจากการด้อยค่าของค่าความนิยมของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้น 56.00 ล้านบาท เป็นผลมาจากการพิจารณาด้อยค่าของค่าความนิยมในบริษัทย่อยแห่งหนึ่ง เนื่องจากการลดลงของรายได้ที่คยคาดการณ์ไว้อย่างมีสาระสำคัญจากผลของปัจจัยภายนอกต่างๆ ตลอดจนภาวการณ์และแนวโน้มของตลาดโดยรวม


ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมค้าและการร่วมค้า

ส่วนแบ่งกำไร (ขาดทุน) จากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและการร่วมค้าของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งขาดทุน 19.55 ล้านบาท เป็นส่วนแบ่งกำไร 2.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22.44 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการร่วมค้าแห่งหนึ่ง ที่มีกำไรจากการขายลิขสิทธิ์ภาพยนตร์ และการหยุดรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากการร่วมค้าอีกแห่งหนึ่ง เนื่องจากมีการรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนสูงกว่าส่วนได้เสียของกิจการแล้ว


ภาษีเงินได้

ภาษีเงินได้ของบริษัท สำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็น 10.13 ล้านบาท สาเหตุหลักเกิดจากการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจากผลต่างชั่วคราวของลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และการกลับรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอตัดบัญชีจากการด้อยค่าของเงินลงทุนระหว่างปีจากการปิดบริษัทร่วม


กำไร (ขาดทุน) สำหรับปี

กำไร (ขาดทุน) สุทธิของบริษัทสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ลดลงจากกำไรสุทธิ 24.97 ล้านบาท เป็นขาดทุนสุทธิ 49.73 ล้านบาท หรือลดลง 74.70 ล้านบาท เป็นผลจากสาเหตุหลักดังกล่าวข้างต้น อย่างไรก็ตามหากไม่รวมผลกระทบจากการพิจารณาด้อยค่าของค่าความนิยมจะทำให้บริษัทมีกำไรสุทธิเมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ลดลงจาก 24.97 ล้านบาท เป็น 6.27 ล้านบาท หรือ ลดลง 18.70 ล้านบาท

รายชื่อผู้ถือหุ้น 10 อันดับแรก ณ วันที่ 22 ส.ค.2566




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X