เคาะไป คุยไป : เคาะ TTB

#TTB #ทันหุ้น - ผู้บริหารยัง Focus คุณภาพของสินทรัพย์ต่อเนื่อง ผ่านสินเชื่อที่ -1.2%YTD แม้ M-Rate ไม่ได้ปรับขึ้น แต่ Loan Yield ปรับตัวขึ้นกว่า 7 bps สู่ระดับ 5.6% ขณะที่ CoF เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 66 ที่ 1.59% สู่ระดับ 1.76% โดยหลักมาจากการ Repricing ของเงินฝาก ส่งผลให้ NIM ลดลงเหลือ 3.28% ลดลงจาก 4Q/66 ที่ 3.39%

Outlook : เป็นไปตาม Guidance 1. Flat Loan 2. NIM 3.1-3.25% 3. C/I Mids-40s, 4. NPL Ratio ไม่เกิน 2.9% และ 5. Credit Cost 1.25-1.35% ทั้งนี้ผู้บริหารคาดหวังการเริ่มเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 และรอการใช้นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นอกจากนี้ยังไม่เห็นด้วยที่จะลดดอกเบี้ยในช่วงนี้ รวมถึงแรงกดดันด้านต้นทุนเงินฝากมีแนวโน้มลดลงจาก LDR ในปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูง และวัฏจักรอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นใกล้สิ้นสุดลง หนุนให้ NIM ไม่ปรับตัวลงแรงในช่วงที่เหลือของปี

เรามีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการ 3 เรื่องได้แก่

1. คุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นมี NPLs Ratio ที่ 2.56% (เทียบกับเป้า 2.9%) จากสิ้นปี 66 ที่ 2.62% Coverage Ratio ยังอยู่ในระดับที่ทรงตัว 155% สะท้อนคุณภาพสินทรัพย์แข็งแกร่ง

2. แรงกดดันของ NIM ที่โมเมนตัมในช่วงที่เหลือของปีอาจจะทรงตัวหรือลดลงเพียงเล็กน้อย โดยเราเชื่อว่าจบสิ้นปีจะอยู่ที่ขอบบนของเป้า 3.1-3.25% และ

3. มีโอกาสขยับ Payout Ratio ขึ้น (เทียบกับปี 66 อยู่ที่ 55% vs เราคาด 60% ตั้งแต่ปี 67F เป็นต้นไป) เนื่องจาก Tier 1 สูงกว่า 17% แล้ว หนุนให้ Div.Yield อาจสูงกว่า 7% p.a.

มองเป็น Defensive-Growth Stock มีราคาเป้าหมายสิ้นปี 1.92 บาท กำไรสุทธิ 1Q/67คิดเป็น 25% ของประมาณการกำไรสุทธิ 24F ของเราที่ 2.1 หมื่นล้านบาท +14.9%YoY เติบโตสูงสุดของกลุ่มธนาคารไทย โดยเราประเมินราคาเป้าหมายสิ้นปี 67F ที่ 1.92 บาท อิง PBV 0.78 เท่า (อิง GGM : ROE LT=8%, CoE=9.6%, LT Growth=2.5%) โดยราคาปัจจุบันซื้อขายบน PBV ที่ 0.52 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลังระยะยาว – 1 SD

แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค แนวโน้มการเรียงตัวแท่งเทียนระยะสั้นมีโอกาสแกว่งตัวสร้างกรอบแนวรับ 1.65-1.66 ยืนเหนือมั่นคงแนวโน้มกลับตัวขึ้นทางเทคนิคฯจากสัญญาณขัดแย้ง Slow Sto.ที่ไม่สร้างยอดต่ำใหม่กว่า แนวต้าน 1.70 ผ่านยืนเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไรตามกัน กรอบแนวต้านจุดทดสอบสำคัญ 1.74-1.75