ทันหุ้น-GLทำแฮตทริกชนะคดี เจทรัสต์3 ศาล ล่าสุด ศาลสิงคโปร์ยกฟ้องคดีใหญ่หลอกลวงลงทุน พร้อมให้ เจทรัสต์ ชดเชยเงินต่อสู้คดีให้ คาดมูลค่า 100 ล้านบาท ด้าน บิ๊กGL ชี้โอกาสเจทรัสต์อุทธรณ์และชนะคดียาก เหตุศาลชี้เหตุผลชัดเจน ยอมรับจากนี้ค่าใช้จ่ายต่อสู้คดีลดลง ทำให้บริษัทผลงานดีขึ้น เดินหน้าเพิ่มพอร์ตสินเชื่อ

บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL แจ้งว่า ศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ ได้มีคำพิพากษา ให้ยกฟ้องของ กรณี เจทรัสต์เอเชีย หรือ JTA ฟ้อง บริษัท กรุ๊ปลีสโฮลดิ้งส์ หรือ GLH ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ GL ฐานหลอกลวงให้เข้าทำธุรกรรม และให้ JTA ชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ทางกฎหมายของ GLH โดย JTA มีสิทธิอุทธรณ์คำพิพากษานี้ได้

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2560 JTA ได้ยื่นฟ้อง GLH ต่อศาลแห่งประเทศสิงคโปร์ โดยกล่าวหาว่า GLH และจำเลยอื่นๆ ร่วมกันหลอกลวงทำให้ JTA เชื่อว่าสถานะทางการเงินของบริษัทดีกว่าความเป็นจริง จึงตกลงเข้ามาลงทุนในบริษัทด้วยการเข้าซื้อหุ้นกู้ GL และเรียกร้องให้ GLH จ่ายค่าเสียหาย พร้อมดอกเบี้ย ทำให้GLH ได้ว่าจ้างที่ปรึกษากฎหมายในประเทศสิงคโปร์เพื่อดำเนินการต่อสู้คดีตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาก่อนที่ศาลจะตัดสินให้ GLH ชนะ

@ รอบุ๊กเงินชดใช้ค่าสู้คดีร้อยล.

นายทัตซึยะ โคโนชิตะ ประธานกรรมการบริหาร GL เปิดเผย "หนังสือพิมพ์รายวันทันหุ้น" ว่า คดีนี้ถือเป็นคดีใหญ่ ที่ศาลสิงคโปร์ตัดสินให้ GLH เป็นฝ่ายชนะ และที่น่าสนใจที่สุดคือการที่ศาลสั่งให้ JTA ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการต่อสู้คดีความของ GLH ด้วยซึ่งบริษัทกำลังตรวจสอบอยู่ว่าช่วงที่ผ่านมาได้ใช้จ่ายค่าใช้จ่ายด้านคดีความในสิงคโปร์ไปเท่าไหร่ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมีมูลค่าราว 60-100 ล้านบาท มีโอกาสที่บริษัทจะบันทึกกำไรได้ หาก JTAไม่ยื่นอุทธรณ์และทำตามคำสั่งศาล

ส่วนกรณีที่JTA จะต่อสู้ในอุทธรณ์แล้วGLH กลับมาแพ้มีโอกาสน้อยมาก หากพิจารณาคำตัดสินของศาลที่ให้ GLH ชนะครั้งนี้ ด้วยการให้เหตุผลว่า JTA ไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะแสดงว่า GLH หลอกลวง และ JTA นับเป็นบริษัทขนาดใหญ่มีประสบการณ์มีความเป็นมืออาชีพ จำเป็นต้องมีการศึกษาและระมัดระวังในการลงทุนอยู่แล้ว นอกจากนี้ JTA ยังรู้จักลูกหนี้ของ GLH ทั้งในส่วนของสิงค์โปร์และไซปรัส ที่มีปัญหาด้านการชำระหนี้จึงไม่สามารถเชื่อได้ว่าโดนหลอก

@ ชนะแล้ว 3 ศาล

นายทัตซึยะ ระบุด้วยว่า ที่ผ่านมามีการตัดสินค้าคดีที่ เจทรัสต์ฟ้องร้อง GL แล้ว 3 คดี ทั้งศาลล้มละลายกลางในไทย ศาลอินโดนีเซีย และศาลสิงคโปร์ ผลปรากฏว่า GL เป็นฝ่ายชนะทุกคดี และทาง เจทรัสต์ ก็ได้มีการถอนฟ้องเรื่องคดีหมิ่นประมาทด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าGL มีความโปร่งใส เชื่อถือได้ ซึ่งทางฝ่ายกฎหมายจะมีการคัดเอกสารคำตัดสินที่สิงคโปร์ มาให้ศาลไทยพิจารณาในคดีคล้ายกันนี้ด้วย

@ต้นทุนค่าสู้คดีลดดันกำไร

ส่วนค่าใช้จ่ายทางกฎหมายในส่วนของสิงคโปร์ซึ่งเดิมคิดเป็นสัดส่วนราว 50% ของรายจ่ายค่ากฎหมายทั้งหมดจะลดลงราว 20% ซึ่งต้นทุนจะลดลงไปเยอะมาก จะส่งผลดีต่อผลประกอบการ และจะทำให้บริษัทมีเม็ดเงินเข้ามาใช้ในการดำเนินธุรกิจได้มากขึ้น ขณะเดียวกันฝ่ายบริหารจัดการก็สามารถที่จะเดินหน้าธุรกิจได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาในเรื่องคดี จึงเชื่อว่าจะทำให้ธุรกิจจากนี้จะเติบโตได้

โดย GL ยังคงยืนยันจะเพิ่มพอร์ตสินเชื่อเติบโต 20% โดยในส่วนของพอร์ตต่างประเทศขณะนี้ ทั้ง เมียนมา ลาว กัมพูชา มีการเติบโตดี เดือนที่ผ่านมามีสัญญาใหม่เพิ่มชึ้น 20% ขณะที่ในไทยเองอาจจะมีการเติบโตที่ช้า เนื่องจากต้องดำเนินการควบคุมกับการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ แต่ยืนยันจะเพิ่มพอร์ตพอร์ตโฟลิโอแน่นอน