> mai > AMA

21 เมษายน 2020 เวลา 09:00 น.

AMAโบรกชี้หลังโควิดจบโตเด่น เคาะกำไรปีหน้ากลับมาทะยาน96%

ทันหุ้น - สู้โควิด - AMA โบรกชี้กำไรปีหน้ากลับมาโตเด่น 96% เชื่อสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง พร้อมปรับกำไรปีนี้ลง 38% อยู่ที่ 116 ล้านบาท ฟากผู้บริหารเร่งปรับกลยุทธ์สู้วิฤติ ระบุเดือนมีนาคมสามารถเดินเรือส่งสินค้าที่ประเทศจีนได้แล้ว เตรียมปรับเป้ารายได้ตามสถานการณ์ คาดใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.9-2 พันล้านบาท


บริษัทหลักทรัพย์  เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ทางฝ่ายได้ปรับลดประมาณกำไรสุทธิปี 2563 ของ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA ลง 38% เหลือ 116 ล้านบาท เนื่องจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ทำให้การขนส่งน้ำมันปาล์มทางเรือไปส่งลูกค้าที่จีนลดลงในช่วงไตรมาส 1/2563 และการรับน้ำมันปาล์มทางเรือจากประเทศผู้ผลิตมาเลเซียลดลงในช่วงไตรมาส 2/2563 หลังจากประเทศมาเลเซียปิดประเทศตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม รวมถึงความต้องการใช้น้ำมันปาล์มลดลงในช่วงการระบาด ดังนั้นเราปรับลดรายได้จากธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือลง 53% เหลือ 673 ล้านบาทในปี 2563


ให้เป้า 4.30 บาท


นอกจากนี้ยังปรับลดราคาเป้าหมายลงเหลือ 4.30 บาท จากเดิมที่ 7.70 บาท โดยอิง PE ที่ลดลงจาก 21.0 เท่า เป็น 19.0 เท่า เพื่อสะท้อนความกังวลต่อการระบาดของไวรัส COVID-19 และการปรับลดประมาณการกำไรลง


แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" เนื่องจากเชื่อว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัส COVID-19 จะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังปี 2563 และกำไรในปีหน้าจะกลับมาโตถึง 96% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็น 228 ล้านบาท แม้ว่าเราได้ประมาณกำไรในไตรมาส 1/63 จะลดลง 70% จากไตรมาสก่อนหน้า เหลือแค่ 16 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากธุรกิจขนส่งสินค้าทางเรือลดลงอย่างมากจากผลกระทบจากการระบาดของไวรัส COVID-19


นายพิศาล รัชกิจประการ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาม่า มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ AMA เปิดเผยว่า บริษัทจะประคับประคองธุรกิจการขนส่งทั้งทางเรือและทางบกไม่ให้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 มากนัก แม้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จะสามารถเดินเรือส่งสินค้าไปที่ประเทศจีนได้แล้ว แต่หลังจากออกจากประเทศจีนยังรอควบคุมคนเรือหรือพนักงานอีก 14 วัน ทำให้การขนส่งต่อไปในประเทศอื่นๆ ชะลอตัว อย่างไรก็ตามสัดส่วนการขนส่งสินค้าทางเรือไปประเทศจีน ยังมีสัดส่วนถึง 50% หากการขนส่งชะลอตัวไปมากกว่านี้อาจกระทบถึงผลประกอบการรวมของบริษัท


พ.ร.ก.ฉุกเฉินกระทบ


ขณะเดียวกันการขนส่งทางบก จากเดิมบริษัทคาดจะเติบโตได้ในระดับดี หรือเติบโตประมาณ 40%  ปัจจุบันบริษัทได้รับผลกระทบจากการประกาศ พ.ร.ก ฉุกเฉินและกำหนดระยะเวลาการเดินรถ ประกอบกับลูกค้าหลักบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG ให้บริการลดลง ตามการเดินทางของลูกค้า ส่งผลให้การบริการปั๊มน้ำมันมีทิศทางลดลงเช่นเดียวกัน


พร้อมกันนี้บริษัทคาดทิศทางธุรกิจและผลประกอบการในครึ่งปีแรกของปี 2563 จะลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สำหรับแผนการเติบโตของรายได้ในปีนี้ บริษัทได้ปรับเป้าหมายลดลง จากเดิมคาดจะเติบโต 12-15% หลังจากต้นปี 2563 มีปัจจัยกดดันจากทั้งสงครามการค้า โรคระบาดโควิด-19 โดยคาดรายได้ปีนี้จะทำได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 1.9-2 พันล้านบาท อนึ่งปี 2562 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 1.9 พันล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 180.52 ล้านบาท


ขณะที่ราคาน้ำมันในประเทศปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง บริษัทมองระยะสั้นจะไม่มีผลประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจขนส่งทางน้ำ แม้น้ำมันจะเป็นต้นทุนหลักในการขนส่ง เพราะบริษัททำการซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าไว้แล้ว แต่ในระยะยาวคาดจะเป็นปัจจัยบวกต่อการดำเนินธุรกิจ ขณะที่การขนส่งทางบกอัตราการให้บริการจะปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลงขึ้นอยู่กับราคาน้ำมัน ณ ปัจจุบัน

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X