> SET > PK

20 พฤศจิกายน 2020 เวลา 07:30 น.

PKวัคซีนหนุนตู้แช่เย็น ขยายฐานบุกข้ามชาติ

ทันหุ้น - วัคซีนต้านโควิดต้องใช้ตู้แช่เย็น เข้าทาง PK ผู้บริหาร รับความต้องการเพิ่ม เร่งเปิดออฟฟิศท้องถิ่นในอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม รับวิถีใหม่ อวดแบ็กล็อกแน่น 1.5 พันล้านบาท   ล่าสุดราคาหุ้นต่ำบุ๊กแวลูที่ 2.92 บาท


นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พัฒน์กล จำกัด (มหาชน) หรือ PK เปิดเผยว่า จากการประกาศของ 2 บริษัทยาในสหรัฐฯ ว่าผลการทดลองบ่งชี้ว่าวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่พัฒนาอยู่มีประสิทธิภาพมากกว่า 90%นับเป็นข่าวดีที่จะยับยั้งการแพร่กระจายและการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19และคาดว่าจากปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนให้เกิดความต้องการตู้แช่เย็นเพื่อรักษาวัคซีนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต แต่ต้องติดตามว่า การกระจายวัคซีนมากยังประเทศไทยและไปประเทศอื่นๆ เป็นอย่างไร ถ้าการทยอยนำเข้ามามากกว่ามาเป็นล็อตใหญ่ ดังนั้นตู้แช่เย็นขนาดใหญ่อาจยังไม่จำเป็น


@เศรษฐกิจฟื้นดึงออเดอร์


ทั้งนี้การมีวัคซีนต้านไวรัสออกมาทำให้คาดว่าในปี 2564 ภาพรวมเศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้น ผู้ประกอบการหลายประเทศเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมการค้าได้มากขึ้น และคาดว่ากลุ่มลูกค้าในต่างประเทศโดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐฯ จะเริ่มกลับมาสั่งซื้อสินค้าได้เพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มลูกค้าในแถบเอเชียยังมีคำสั่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าปริมาณจะลดลงไปบ้าง แต่จากปัจจัยข้างต้นทำให้คาดว่าในปีนี้ปริมาณคำสั่งซื้อจะฟื้นตัวดีขึ้นตาม


พร้อมกันนี้ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์ในเชิงรุกใหม่เพื่อให้สอดคล้องต่อสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจัดตั้งสำนักงานขายประจำประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม เป็นต้น เพื่อให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายสามารถเข้าถึงสินค้าต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น


@ ตั้งออฟฟิตนอกโกยยอด


เพราะนับตั้งแต่เกิดวิกฤตโควิด-19 หลายประเทศปรับวิถีใหม่คือนำเข้าสินค้าลดลง และอยากให้ต่างประเทศเข้ามาลงทุนมากกว่า ซึ่งการตั้งสำนักงานในต่างประเทศจะทำให้บริษัทได้รับยอดขายเข้ามาได้เพิ่มมากขึ้น โดยคาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนในปี 2564 เป็นต้นไป ขณะเดียวกันการลงทุนดังกล่าวยังเป็นการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินลงอีกด้วย


สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงไตรมาส 4/2563 เชื่อว่าจะเติบโตดีขึ้น จากมาตรการล็อคดาวน์ที่เริ่มคลายตัว ทำให้ในช่วงที่เหลือของปี 2563 นี้ บริษัทมีโอกาสที่จะทยอยติดตั้งและส่งมอบให้กับลูกค้าภายในประเทศเพิ่มขึ้น หลังกลุ่มลูกค้าเริ่มกลับมาดำเนินกิจกรรมการค้าได้มากขึ้น ซึ่งทำให้คาดว่าผลการดำเนินงานในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะมีการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่องจากไตรมาส 3/2563 ที่มีรายได้จากการขายอยู่ที่ 676 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14 ล้านบาท หลักๆ เป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่าย รวมถึงประสิทธิภาพทางการผลิตที่ดีมากขึ้น


@ แบ็กล็อกแน่น


ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทยังคงมียอดขายรอการทยอยติดตั้งและส่งมอบให้กับลูกค้าอยู่ในมือ (Backlog) มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท คาดส่งมอบภายในช่วงที่เหลือของปี 2563 ได้บางส่วน โดยส่วนใหญ่จะรับรู้เป็นรายได้ในปี 2564 ทั้งหมด ขณะเดียวกันจากการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่องจากกลุ่มลูกค้าค้า รวมถึงการขยายตลาดใหม่ๆ และการปรับกลยุทธ์เชิงรุกในต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้บริษัทคาดว่าในปี 2564 จะได้รับคำสั่งซื้อเข้ามาใหม่ ซึ่งจะมาเสริมให้ Backlog สามารถรักษาระดับไว้ที่ไม่น้อยกว่า 1,700-1,900 ล้านบาท โดยบริษัทเชื่อว่าผลการดำเนินงานในปีหน้าจะเติบโตแบบตัวเลข 2 หลักได้


สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2563 จะมีการเติบโตที่ดีกว่าปี 2562 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,751.47 ล้านบาท ขาดทุน 185.59ล้านบาท โดย 9 เดือนแรกของปีนี้มีรายได้ 2,452.38 ล้านบาท กำไรสุทธิอยู่ที่ 11.87 ล้านบาท

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X