ทันหุ้น-SIRI สร้างประวัติศาสตร์ “หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ” ยอดจองซื้อเต็ม ใช้เวลาเพียง 3 นาที 38 วินาทีผ่านแอปเป๋าตัง ตอกย้ำความสำเร็จในการเป็นหุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ง่ายและเท่าเทียม พร้อมตรวจสอบรายการจองซื้อได้ในวันที่ 21 มกราคม 2565

นายวิชาญ วิริยะภูษิต ประธานผู้บริหารสายงานการเงิน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยว่า SIRI ประสบความสำเร็จอีกครั้งในการเป็นผู้นำการระดมทุนรูปแบบใหม่ที่ทำให้คนไทยทุกคนเข้าถึงการลงทุนได้ รายแรกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย โดยล่าสุดสร้างประวัติศาสตร์ “หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริ” มีนักลงทุนจำนวนมากให้ความสนใจจองซื้อผ่านแอปฯ เป๋าตัง ส่งผลให้ยอดจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขาย 2,000 ล้านบาท ในระยะเวลาเพียง 3 นาที 38 วินาที

หุ้นกู้ดิจิทัลSIRIฮ็อต

“หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริเสนอขาย 1,000 ล้านบาท มีหุ้นกู้สำรองเพื่อการเสนอขายเพิ่มเติม (กรีนชู) อีกจำนวน 1,000ล้านบาท นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อเต็มมูลค่าเสนอขาย 2,000 ล้านบาท ในเวลา 3 นาที 38 วินาที จากนักลงทุนจำนวน 5,800 ราย ซึ่งเป็นนักลงทุนรายย่อยที่เข้าถึงหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริได้ตรงตามวัตถุประสงค์ในการเป็นหุ้นกู้ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้”

การตอบรับที่ดีจนส่งผลให้เต็มมูลค่าเสนอขายในระยะเวลาอันรวดเร็วนี้ นับเป็นการตอกย้ำเจตนารมย์และความมุ่งมั่นของแสนสิริในการเป็นแบรนด์ที่จับต้องง่าย และ แบรนด์ที่ทุกคนเข้าถึงได้ ซึ่งไม่ใช่เพียงเฉพาะการพัฒนาโปรดักส์ เพื่อให้เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ในทุกระดับราคา แสนสิริยังมองถึงความสำคัญในด้านการลงทุนที่ต้องเท่าเทียมและเข้าถึงได้ ทำให้มีการเสนอขายหุ้นกู้รูปแบบนี้ เป็นรายแรกของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเอเชีย และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนที่เกินความคาดหมาย

นายวิชาญ  กล่าวอีกว่า หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง 1,000 บาท ดอกเบี้ยคงที่ 3.10% ต่อปี ระยะเวลาลงทุนเพียง 2 ปี 6 เดือน รับดอกเบี้ยทุก 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ทำให้หุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว” นายวิชาญ กล่าว

ตรวจรายชื่อจองซื้อ

สำหรับนักลงทุนที่จองซื้อหุ้นกู้ดิจิทัลแสนสิริสำเร็จ สามารถตรวจสอบรายการจองซื้อได้ในวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้ได้ในวันที่ 21 มกราคม 2565 พร้อมสภาพคล่อง ในการเปิดซื้อ/ขายหุ้นกู้ในตลาดรองแบบ real-time 24 ชั่วโมง ผ่านวอลเล็ตซื้อขายหุ้นกู้บนแอปฯ เป๋าตัง หลังหุ้นกู้เข้าวอลเล็ตได้ทันที

ก่อนหน้านี้ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เผยถึงแผนธุรกิจว่า ระยะ 3 ปีต่อจากนี้บริษัทเดินหน้าเปิดตัวโครงการใหม่มูลค่ารวม 150,000 ล้านบาท พร้อมเป้าหมายยอดขายรวม 120,000 ล้านบาท

ขณะที่ปี 2565 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายและยอดโอน ไว้ที่ 35,000 ล้านบาท จากในปี 2564 บริษัทมียอดขาย 33,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 29% จากเป้าเดิม 26,000 ล้านบาท และยอดโอน 32,500 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 21% จากเป้าเดิม 27,000 ล้านบาท

  โดยแผนธุรกิจในปี 2565 ขับเคลื่อนภายใต้วิสัยทัศน์ “STEP BEYOND” เติบโตยั่งยืนทุกมิติด้วย 3 กุญแจขับเคลื่อนองค์กร PROFIT - PEOPLE - PLANET โดยการมุ่งสร้างรายได้และผลกำไรเพื่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกส่วน เเละเตรียมเปิด 46 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 28 โครงการ และคอนโดมิเนียม 18 โครงการ

โดยมีสัดส่วนของ Affordable Segment 50% เพื่อให้แสนสิริเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงง่าย โดยมีระดับราคาตั้งแต่ล้านต้นๆ ไปจนถึงระดับไฮเอนด์ ประกอบด้วยคอนโดมิเนียมราคาเข้าถึงได้ ภายใต้แบรนด์คอนโด มี, เดอะ มูฟ, ดีคอนโด, เดอะ ไลน์ พร้อมไฮไลต์ด้วยการรุกคอนโดแบรนด์ “เดอะ เบส” ซึ่งในปีนี้จะมีการเปิดตัว 4 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 4,500 ล้านบาท, ทาวน์โฮมราคาเข้าถึงง่าย แบรนด์ สิริ เพลส 8 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 6,100 ล้านบาท

บ้านและทาวน์โฮมแบรนด์ “อณาสิริ” ที่ลูกค้าให้การตอบรับสูงในปีที่ผ่านมา เเละเพิ่มแบรนด์ “สราญสิริ” บ้านเดี่ยวริดีไซน์ใหม่ ครองความรวมถึงบ้านเดี่ยวระดับแบรนด์ ”บุราสิริ และเศรษฐสิริ” ต่อเนื่อง รวมทั้งต่อยอดความสำเร็จของ Exclusive Modern Residence แบรนด์ “บูก้าน” และไฮไลต์ที่สำคัญของโครงการแนวราบ ด้วยการกลับมาของบ้านเดี่ยวในระดับ Luxury แบรนด์ “นาราสิริ” 2 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 8,300 ล้านบาท