> SET > SPCG

25 พฤษภาคม 2022 เวลา 11:30 น.

SPCGพร้อมลุยโซลาร์อีอีซี การันตีรายได้ปีนี้4.7พันล.

#SPCG #ทันหุ้น – SPCG มั่นใจโครงการโซลาร์อีอีซีเดินหน้าต่อ คาดเฟสแรก มีกำลังการผลิต 316 เมกะวัตต์ ลุ้นรับรู้รายได้ไม่เกินไตรมาส 1/2566 หากโครงการเริ่มนับหนึ่ง พร้อมปีนี้คงเป้ารายได้ 4.7 พันล้านบาท ด้านโครงการโซลาร์ญี่ปุ่นคืบ ส่วนโซลาร์รูฟท็อป มองว่าปีนี้มีโอกาสฟื้นตัวขึ้น แย้มดีลซื้อกิจการต่อยอด


นายพิพัฒน์  วิริยธรานนท์  ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่า บริษัทยังคาดว่ารายได้ปีนี้จะทำได้ราว 4.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.7% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.5 พันล้านบาท โดยไตรมาส 1/2565 ที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้แล้วกว่า 1,054.9 ล้านบาท โดยปีนี้ยังเดินหน้าในการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ขณะที่โครงการในญี่ปุ่น ปัจจุบันมีความคืบหน้ามากขึ้น


โดยโครงการ Ukujima Mega Solar Project ขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 480 เมกะวัตต์ (MW) ปัจจุบันโครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างขั้นตอนการก่อสร้าง แม้ว่าจะมีความล่าช้าไปบ้าง เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่คาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้า (COD) ไม่เกิน 1 ปีจากกำหนดการเดิมปี 2566 ส่วนโครงการอื่นๆ ในญี่ปุ่นที่ก่อนหน้านี้มีการศึกษาแต่เกิดสถานการณ์โควิด ทำให้การอาจจะชะลอไปบ้าง แต่หากสถานการณ์ดีขึ้นก็จะเข้าไปศึกษาการลงทุนในญี่ปุ่นต่อเนื่อง


อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจต่อเนื่อง เดินหน้าในการขยายโครงการใหม่ๆ การหาธุรกิจใหม่ๆ เข้ามา ซึ่งในส่วนของผู้บริหารก็มีเป้าหมายในการที่จะเพิ่มรายได้ และลดค่าใช้จ่ายให้แก่บริษัท ดังนั้นปีนี้บริษัทยังเชื่อว่ารายได้จะทำได้ที่ 4.7 พันล้านบาท ยังเป็นเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้


*เดินหน้าโซลาร์อีอีซี

ขณะที่โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์ฟาร์ม) ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) กำลังการผลิตรวม 500 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดนั้น บริษัทได้มีการเตรียมความพร้อมทุกส่วนในการพัฒนาโครงการแล้ว และมีการเจราโปรเจ็กต์ไฟแนนซ์ (Project Finance) เพื่อเตรียมความพร้อม หากมีความชัดเจนบริษัทก็จะเดินหน้าโครงการทันที ซึ่ง


“ยังมีความมั่นใจว่าโครงการจะเดินหน้าต่อไปได้ ทั้งนี้หากโครงการสามารถเดินหน้าก่อสร้างได้คาดว่าจะจะสามารถสร้างรายได้ให้แก่บริษัทไม่เกินไตรมาส 1/2566 แต่ในระยะแรกจะก่อสร้างที่ 316 เมกะวัตต์ ส่วนกำลังการผลิตที่เหลือจะก่อสร้างหลังจากประเมินความต้องการใช้ไฟฟ้าแล้วหากมีความต้องการใช้ไฟฟ้าปริมาณที่มากก็จะเดินหน้าในการขยายกำลังการผลิตต่อไป” นายพิพัฒน์ กล่าว


*โซลาร์รูฟโอกาสฟื้นตัว

ในส่วนของธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Roof) ปีที่ผ่านมาอาจจะชะลอตัวไปบ้าง เพราะกลุ่มลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่เป็นกลุ่มโรงงาน อาคาร ที่ผ่านมาสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การลงทุนชะลอลงไป แต่เชื่อว่าจากนี้สถานการณ์น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น เพราะขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ก็มีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง และในส่วนของต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น น่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้กลุ่มลูกค้าหันมาพิจารณาเรื่องของการใช้โซลาร์รูฟท็อปมากขึ้นเพราะจะช่วยลดต้นทุนให้แก่บริษัทได้ และบริษัทไม่ปิดกั้นโอกาสในการซื้อกิจการ (M&A)เพื่อจะต่อยอดในการเติบโตด้วย


สำหรับไตรมาส 1/2565 เดือนสิ้นสุดวัน ที่ 31 มีนาคม 2565 บริษัท มีกำไรสุทธิจำนวน 666.1 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.58 บาท) เมื่อเปรียบเทียบกับ ปี 2564 ซึ่งมีกำไรสุทธิจำนวน 782.3 ล้านบาท (คิดเป็นกำไรต่อหุ้น เท่ากับ 0.69 บาท) ปรากฏว่ากำไรสุทธิลดลงจำนวน 116.2 ล้านบาท คิดเป็น 15.0% ขณะที่รายได้จากการขายและกำไรให้บริการสำหรับ จำนวน 1,054.9 ล้านบาท ลดลงจากปี 2564 (1,172.7 ล้านบาท) จำนวน 117.8 ล้านบาท คิดเป็น 10%


รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

จาก
ถึง
Select...
หุ้น
Select...
หัวข้อ
Select...

ข่าวล่าสุด

อ่านต่อ

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา  อ่านเพิ่มเติม

X