#BLESS #ทันหุ้น - ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจชะลอตัวบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยภาพรวมอาจจะยังดูไม่น่าสนใจ แต่หากพิจารณาให้ดีในวิกฤติย่อมมีโอกาส ดังนั้นการเฟ้นหาหุ้นดีอนาคตไกล พื้นฐานแน่นติดพอร์ตไว้ เพื่อรอรับผลตอบแทนที่ดีเป็นอีกกลยุทธ์ที่สามารถเลือกใช้สำหรับการลงทุนในช่วงนี้กลุ่มอุตสาหกรรมพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะโครงการแนวราบ ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีสัญญาณการฟื้นตัวมากขึ้น

หุ้นน้องใหม่ บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่พักอาศัยเพื่อขาย แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบ ประกอบด้วย บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม Low rise ภายใต้แกนนำของผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมมากกว่า 30 ปีอย่าง" ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLESS สามารถผลักดันการเติบโตต่อเนื่องและฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจมาได้หลายรอบ และได้นำบริษัทระดมทุนเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้สำเร็จ จนทำให้ฐานะการเงินที่เข้มแข็งสามารถรอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจรอบนี้ ตลอดจนจะช่วยผลักดันการเติบโตได้อีก โดยในระยะยาว 3ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโตเท่าตัว

เรื่องราวของ BLESS กลับมาอยู่ในโฟกัสของนักลงทุนอีกครั้ง หลังจากมีกระแสข่าวว่าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ "กลุ่มสุขเจริญไกรศรี" มีความเกี่ยวข้องกับ ACAP เรื่องนี้ ผู้บริหารได้ออกมาเคลียร์ชัดเจนเลยว่าเป็นคนละกลุ่มกันและไม่เกี่ยวข้องกับ ACAP โดยก่อนที่ BLESS จะระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาด maiได้ชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดกับก.ล.ต.ไปแล้วว่า ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับกลุ่มผู้ถือหุ้นใน ACAP ทั้งทางตรงและทางอ้อม (เป็นคนละครอบครัวแต่ใช้นามสกุลเดียวกัน)

ปัจจุบัน BLESS มีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น 3 ตระกูลหลักๆ ประกอบด้วย กลุ่มตระกูลโกวิทจินดาชัยและอภิรัตน์รุ่งเรือง ถือหุ้น 39.94% กลุ่มสุขเจริญไกรศรี ถือหุ้นรวม 31.31% และกลุ่มตันติพจน์ ถือหุ้น 3.75%โดยเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นที่ร่วมกันก่อตั้งบริษัทฯ และมีนโยบายที่จะร่วมลงทุนเป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันในระยะยาว

ส่วนแผนธุรกิจของ BLESS ในอนาคต บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าหมายในช่วง 3 ปีจากนี้ (ปี 2565-2567) เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 จะมีรายได้เติบโตเท่าตัว จากปี 2564 ที่มีรายได้ 795.62 ล้านบาท ซึ่งจากฐานทุนที่แข็งแกร่งขึ้น และการเข้าถึงเครื่องมือทางการเงินที่มากขึ้นภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทเติบโตได้ตามเป้าหมาย และในปีนี้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตของรายได้อย่างต่อเนื่องในแต่ละปี

ความสามารถในการทำกำไรขั้นต้นไว้ได้ในระดับสูง เฉลี่ยประมาณ 30% โดยในปี 2563-64 อยู่ที่ 30.71% และ 30.40% ตามลำดับ สะท้อนให้เห็นถึงการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะต้นทุนในการก่อสร้าง ที่ถือเป็นอีกจุดเด่นที่สำคัญของ BLESS เนื่องจากบริษัทฯมีบริษัทในเครือเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างหลัก รองรับงานโครงการอสังหาฯของบริษัทฯ และใช้การก่อสร้างด้วยระบบ Wall Form ที่มีความแข็งแรงและรวดเร็ว

ส่วนประเด็นที่ราคาหุ้น BLESS ร่วงลงต่ำกว่าราคาขายไอพีโอ น่าจะเป็นโอกาสที่ดี เพราะหากลงทุนถือหุ้นในระยะกลางถึงยาวก็มีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากส่วนต่างราคาหุ้นในอนาคต รวมทั้งผลตอบแทนจากเงินปันผล อีกทั้งหากเทียบกับราคาเหมาะสมที่โบรกเกอร์ประเมินไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งให้ไว้ในช่วง 1.50-1.62 บาท/หุ้น โดย บล.ทรีนีตี้ ประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 อยู่ที่ 1.53-1.62 บาท/หุ้น บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ประเมินว่า มูลค่าพื้นฐานหุ้น BLESS ณ สิ้นปี 2566 ที่ 1.60บาทบล.ฟินันเซีย ไซรัส ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2566 เท่ากับ 1.50 บาท

จากข้อมูลดังกล่าวน่าจะสะท้อนให้เห็นว่า BLESS เป็นหุ้นอสังหาฯแนวราบที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มีความสามารถในการทำกำไรระดับสูง สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้สม่ำเสมอ สุดท้ายแล้วก็อยู่ที่นักลงทุนละครับว่าจะมองเห็นเป็นโอกาสที่ดีในยามภาวะตลาดไม่สดใสแบบนี้หรือไม่ โชคดีครับ

รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

APP ทันหุ้น ANDROID คลิก https://qrgo.page.link/US6SA

APP ทันหุ้น IOS คลิก https://qrgo.page.link/QJKT7

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news 

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1