นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ปัจจุบัน กลุ่มบริษัท BLESS ประกอบธุรกิจหลักในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่พักอาศัยเพื่อขาย เปิดเผยว่า สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังบริษัทเตรียมเปิดโครงการใหม่ 4 โครงการมูลค่า 2,216 ล้านบาท ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยว Blessington วงแหวน จตุโชติ มูลค่า 720 ล้านบาท โครงการทาวน์โฮม Bless premier ศรีสมาน-ติวานนท์ มูลค่า 84 ล้านบาท, โครงการบ้านเดี่ยว/บ้านแฝด Bless บางบ่อ มูลค่า 947 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม Bless บางบ่อ มูลค่า 465 ล้านบาท โดยโครงการบ้านทั้ง 4 โครงการ จะเป็นรูปแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งมีความแตกต่างจากเดิมอย่างสิ้นเชิงเพราะบริษัทได้มีการสำรวจกลุ่มลูกค้าในแต่ละทำเลที่บริษัทจะเข้าไปทำโครงการ
สำหรับกลยุทธ์ของบริษัทยังเป็นเรื่องการเน้นทำเลที่ตั้งโครงการในศูนย์กลางธุรกิจใหม่ ได้แก่ บริเวณชานเมืองกรุงเทพฯ และปริมณฑล และมีทีมงานการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อบริโภค โดยบริษัทมีฝ่ายออกแบบช่วยในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ร่วมกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อประเมินความเป็นไปได้ของโครงการ รวมถึงมีการบริหารต้นทุนการก่อสร้างโดยมีบริษัทย่อยเป็นผู้ดำเนินธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง จึงทำให้สามารถวางแผนงานก่อสร้างและคงคุณภาพบริหารต้นทุนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้บริษัทยังมีทีมวิศวกร ซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้างก่อนรับมอบ
ล่าสุดได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยใหม่ ชื่อ บริษัท เบล็ส เซอร์วิส พลัส จำกัด สำหรับประเภทธุรกิจเกี่ยวกับการบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารและหมู่บ้านจัดสรร รวมถึงบริการหลังจากขายอสังหาริมทรัพย์ โดยมีทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 100,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท ทั้งนี้โครงสร้างการถือหุ้น BLESS ถือหุ้นร้อยละ 99.99 (โดยบริษัท ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมร้อยละ 100) และมีแหล่งที่มาของเงินทุน จากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
สำหรับโครงการที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาสที่ 1/2566อยู่ที่ 327 ล้านบาท แบ่งเป็น โครงการทาวน์โฮมบ้านแฝด 98% มูลค่า 322 ล้านบาท และโครงการคอนโดมิเนียม 2% มูลค่า 5 ล้านบาท
ทั้งนี้ ไตรมาสที่ 1/2566 บริษัทมีรายได้ 107.05ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้ โครงการทาวน์โฮม 80 ล้านบาท บ้านแฝด 16 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 11 ล้านบาท ลดลง 67.11 ล้านบาท หรือ38.53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีรายได้ 106.88ล้านบาท ลดลง 66.33 ล้านบาท คิดเป็น 38.29% ซึ่งรายได้ที่ลดลงมาจากยอดขายทาวน์โฮมและบ้านแฝด ลดลง 67.84 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากความเข้มในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน และผู้ซื้อมีความกังวลในการใช้จ่ายทำให้ชะลอการซื้อบ้านออกไปก่อน ขณะที่กำไรไตรมาสที่ 1/2566 อยู่ที่ 4.96 ล้านบาท
รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ได้ทุกช่องทางเหล่านี้
YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/c/ThunhoonOfficial
FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/
Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_
TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news
Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1
Instagram คลิก https://instagram.com/thunhoon.news?igshid=YTY2NzY3YTc=
เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดียิ่งขึ้น การใช้งานเว็บไซต์นี้เป็นการยอมรับข้อกำหนดและยินยอมให้เราจัดเก็บคุ้กกี้ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา อ่านเพิ่มเติม