#KKP #ทันหุ้น - KKP อัพยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 65 เติบโตไม่ต่ำกว่า 16% จากเดิมที่วางไว้ 12% หลัง 7 เดือนแรกทำได้แล้ว 9.7% ขณะที่ NPL คาดคุมได้ 3.1% จากเดิมวางไว้ 3.3% มองครึ่งปีหลังเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงจากความผันผวนของ สหรัฐ-จีน จับตา 10 สิงหาคม กนง.ขึ้นดอกเบี้ยสู้เงินเฟ้อ

นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKP เปิดเผยว่า ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรในช่วงครึ่งปีแรก 2565อยู่ในเกณฑ์น่าพอใจ โดยเฉพาะธุรกิจสินเชื่อธนาคารพาณิชย์และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อ ที่เติบโตได้กว่า 11% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน และสินเชื่อที่อยู่อาศัย เติบโต 19% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน

เพิ่มเป้าสินเชื่อโต

โดยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทำให้กลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อและกลุ่มสินเชื่อรายย่อยอื่นๆ ยังคงมีแนวโน้มการขยายตัวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2565 อีกด้วย ส่งผลให้ทางธนาคารมีการปรับเพิ่มเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อใหม่เป็นไม่น้อยกว่า 16% จากเดิมที่วางเป้าเติบโต 12% ซึ่งในนับตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 จนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคม มีการเติบโตรวมเฉลี่ยแล้วที่กว่า 9.7%

ในส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) บริษัทปรับลดเป้าหมายลง โดยจะควบคุมให้ไม่เกิน 3.1% จากเป้าหมายเดิมที่วางเกณฑ์ไว้ไม่เกิน 3.3% ซึ่งในช่วงครึ่งแรกปี 2565 อยู่ที่ระดับ 3% นอกจากนี้ ทางธนาคารยังมีแผนเปิดตัว KKP DIME ซึ่งเป็นบริการด้านดิจิทัลใหม่ เข้ามาเสริมด้านการขยายฐานลูกค้าธนาคาร และบล.เกียรตินาคินภัทร

อีกทั้งมองว่ายังสามารถสร้างรายได้เสริมเข้ามาให้กับธนาคารได้เพิ่มเติม โดยจะมีการเริ่มให้บริการในส่วนของการลงทุนในการซื้อขายตราสารหนี้ และบริการซื้อขายหุ้นต่างประเทศ ในช่วงเริ่มเปิดให้บริการ และจะมีบริการอื่นๆ ตามมา พร้อมกับในอนาคตหากมีการเปิดให้ขอใบอนุญาต Virtual Banking ธนาคารจะนำ KKP DIME ต่อยอดไปสู่ธุรกิจดังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วย

ขณะที่ธุรกิจวานิชธนกิจนั้น ในช่วงครึ่งหลังปี 2565 ยังมีธุรกรรมขนาดใหญ่หลายรายการ ทั้งเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ขายหุ้น ได้แก่ บริษัทไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI และบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG ที่ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ไปแล้ว คาดว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ได้ปลายปีนี้

ดอกเบี้ยขาขึ้น

นายฟิลิป เชียง ชอง แทน กรรมการผู้จัดการใหญ่ KKP กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจในระยะต่อไป ธนาคารยังคงต่อยอดจากธุรกิจที่มีความชำนาญ ไม่ว่าการปรับปรุงระบบและกระบวนการภายในเพื่อการพิจารณาสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเข้าถึงผู้บริโภคได้สะดวกง่ายดายยิ่งขึ้นผ่านแอป KKP Mobile การเดินหน้าผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างสินเชื่อ 'รถเรียกเงิน' รวมทั้งการขยายเครือข่ายการให้บริการผ่านการสร้างความร่วมมือกับคู่ค้าที่มีความแข็งแกร่ง

ดร.พิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ KKP Research บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ประเมินเศรษฐกิจกำลังค่อยๆ ฟื้นตัวจากฐานที่ต่ำ โดยคาดว่า GDP จะเติบโตได้ 3.3%จากการฟื้นตัวของการบริโภคและการลงทุนภายในประเทศที่เริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ การขยายตัวของการส่งออกที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก การท่องเที่ยวที่กลับมามากกว่าที่คาด

สำหรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่กำลังปรับตัวเป็นขาขึ้นตามแรงกดดันเงินเฟ้อ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางทั่วโลก และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจโลกอาจจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวหรือถดถอยในระยะเวลาข้างหน้าจนกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย อย่างไรก็ดี การขึ้นดอกเบี้ย คาดว่าจะเห็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 10 สิงหาคม 2565นี้

อย่างไรก็ดี มองว่าหากมีการปรับขึ้น 0.25-0.50% เป็นประเด็นสำคัญที่ กนง. ต้องหารือกัน เพราะเงินเฟ้อที่สูงมาก 7.1% แต่ยังไม่ถึงระดับพีคสุด โดยระยะข้างหน้าคาดว่าเงินเฟ้อยังขยับขึ้นได้ต่อ การสู้กับเงินเฟ้อถ้าจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50%-0.75% เป็นเรื่องปกติ สำหรับเศรษฐกิจโลกยังมีความเสี่ยงเรื่องความสัมพันธ์ของสหรัฐและจีน ซึ่งถ้ามีความขัดแย้งจีนและสหรัฐ จะสร้างความตึงเครียด เป็นการเพิ่มความไม่แน่นอน มีความเสี่ยงที่จะเผชิญหน้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กังวลมากขึ้น ที่สำคัญทั้งจีนและสหรัฐเป็นคู่ค้าของไทยทั้งคู่